การชี้แจงนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๖๕ – ๒๕๖๗ ต่อวุฒิสภา

       เมื่อวันอังคารที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๖ ในคราวการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ ๒๔ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ณ ห้องประชุมวุฒิสภา อาคารรัฐสภา ชั้น ๒ ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร นายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้เข้าชี้แจงในวาระเรื่องที่เสนอใหม่ เรื่อง นโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๖๕ – ๒๕๖๗ (ตามมาตรา ๔ พระราชบัญญัติการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๓) ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ลงมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖

       นายฉัตรชัยฯ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติฯ ได้กล่าวว่า ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปัญหาที่รัฐบาลทุกยุคสมัยให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมา พระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้กำหนดให้ สมช. จัดทำนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นกรอบทิศทางหลักในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม ๕ จังหวัด โดยครอบคลุมทั้งมิติด้านความมั่นคงและด้านการพัฒนา บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อเสนอต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบ จากนั้นให้นำเสนอรัฐสภาเพื่อทราบ

       นโยบายฯ ได้จัดทำขึ้น เพื่อคลี่คลายเงื่อนไขของปัญหา โดยกำหนดเป้าหมายในการยุติเหตุรุนแรงอย่างสมบูรณ์ภายในปี พ.ศ. ๒๕๗๐ ควบคู่กับการลดเงื่อนไขของปัญหา โดยยังคงยึดมั่นและรักษาแนวทางการดำเนินการที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง เน้นแก้ไขปัญหาตามแนวทางสันติวิธี และหลักสิทธิมนุษยชน การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และการบริหารจัดการบนพื้นฐานของสังคมพหุวัฒนธรรม ตลอดจน การให้ความสำคัญกับการบูรณาการการขับเคลื่อนงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพและประสานสอดคล้อง โดยได้กำหนดวิสัยทัศน์ว่า “จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัย และมีสันติสุข บนพื้นฐานของสังคมพหุวัฒนธรรมและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน” ซึ่งการบรรลุผลตามเป้าหมายและวิสัยทัศน์ข้างต้นนั้น ได้กำหนดวัตถุประสงค์ รวม ๖ ข้อ และแนวนโยบายรองรับ ๒๗ ประเด็น รวมทั้งกำหนดกลไก ทั้งในระดับนโยบาย ระดับการแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ และระดับการปฏิบัติในพื้นที่

       เมื่อผ่านการรับทราบของรัฐสภาแล้ว จะได้มีการชี้แจงให้กับหน่วยงานของรัฐ เพื่อใช้นโยบายฉบับนี้ไปสู่การขับเคลื่อนงานตามแนวทางดังกล่าวอย่างเป็นทางการ โดยจะนำสู่การจัดทำยุทธศาสตร์จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี โครงการ กิจกรรม และงบประมาณของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง รวมทั้ง ผลักดันการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ และการประสานกับภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายอย่างเหมาะสมต่อไป

       ที่ประชุมวุฒิสภา ได้รับทราบนโยบายฯ โดยคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา พร้อมทั้ง พลเอก อักษรา เกิดผล นายถวิล เปลี่ยนศรี และพลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร สมาชิกวุฒิสภา ได้ให้ความเห็นในภาพรวมว่า นโยบายฯ มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ และนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้ง มีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ ในระยะต่อไป ควรมีการถ่ายทอดนโยบายฯ ไปสู่การปฏิบัติที่ชัดเจนและประสานสอดคล้องอย่างบูรณาการร่วมกัน โดยควรมีการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์และแนวนโยบายของรัฐให้มีความเข้าใจตรงกัน พร้อมทั้ง ควรให้ความสำคัญกับเงื่อนไขและมิติที่เชื่อมโยงกับปัญหา อาทิ การศึกษา ความยากจนและเศรษฐกิจ กระบวนการพูดคุยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ

กองความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้และชนต่างวัฒนธรรม
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

แชร์เลย