ผู้เขียน: Pitsanu ST

       พลเอก สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธาน การประชุมคณะกรรมการบูรณาการข้อมูลด้านความมั่นคง ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๓๐ – ๑๒.๐๐ น. ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สมช. ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมได้รับทราบรายงานผลการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการบูรณาการข้อมูลด้านความมั่นคง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ และการปรับหน่วยงานเจ้าภาพเพื่อขับเคลื่อนการบูรณาการข้อมูลด้านความมั่นคง ห้วงปี พ.ศ. ๒๕๖๖ -๒๕๗๐ เป็นกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
       โดยมีประเด็นพิจารณา ๒ ประเด็น คือ ๑) แนวทางการขับเคลื่อนการบูรณาการข้อมูลด้านความมั่นคง พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐ และ ๒) การจัดตั้งกลไกสำหรับขับเคลื่อนการบูรณาการข้อมูลด้านความมั่นคงห้วงปี พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐

ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

        เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ณ กรุงเทพฯ พล.อ. วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข จชต. ได้ให้การต้อนรับ ศาสตราจารย์ พล.อ. ตันซรี ดาโต๊ะ สรี ซุลกิฟลี ไซนัล อะบีดิน ผู้อำนวยความสะดวกในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข จชต. เพื่อแนะนำตัวและทำความรู้จักซึ่งกันและกัน เนื่องในโอกาสรับหน้าที่ใหม่
        ในการนี้ พล.อ. วัลลภฯ หัวหน้าคณะพูดคุยฯ ได้แนะนำคณะพูดคุยฯ จากส่วนราชการต่างๆ ทั้งพลเรือน ทหาร และตำรวจ ให้ฝ่ายมาเลเซียได้รู้จัก และได้มีการหารือถึงแนวทางการทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยในระยะต่อไป ซึ่งจะได้หยิบยกเรื่อง Joint Comprehensive Plan Towards Peace (JCPP) หรือ กรอบความร่วมมือเพื่อสร้างสันติภาพแบบองค์รวม ซึ่งเป็นการต่อยอดและขยายผลหลักการทั่วไปว่าด้วยการพูดคุยเพื่อสันติสุข จชต. (General Principles of the Peace Dialogue Process) ให้นำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ภายในปี ๒๕๖๖ ทั้งในเรื่องการลดการเผชิญหน้า/ยุติความรุนแรง การปรึกษาหารือสาธารณะ และการแสวงหาทางออกทางการเมือง
        โดยฝ่ายผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซียได้แจ้งให้ทางการไทยทราบว่า มีกำหนดเชิญพูดคุยเต็มคณะ ครั้งที่ ๖ ในวันที่ ๒๑-๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์

สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

        เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๖ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (พลเอก สุพจน์ มาลานิยม) ร่วมด้วย รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (นายวรณัฐ คงเมือง) ให้การต้อนรับเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (เรืออากาศเอก นพ.อัจฉริยะ แพงมา) และคณะ ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสการเข้าเยี่ยมคารวะและประชุมหารือข้อราชการ รวมถึงการประสานความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานในการผลักดันนโยบายด้านการแพทย์ฉุกเฉินให้ครอบคลุมการดำเนินงานในทุกมิติรวมถึงมิติด้านความมั่นคง ตั้งแต่ระนโยบายจนถึงระดับปฏิบัติ โดยมีการหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้อง อาทิ การบูรณาการหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินในการรับแจ้งเหตุ ๑๙๑ ๑๖๖๙ และ ๑๙๙ ให้มีความสอดคล้องกับรูปแบบของเหตุฉุกเฉินต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งในเรื่องอุบัติเหตุ เหตุฉุกเฉิน ไปจนถึงสาธารณภัย โดยอาศัยความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วน เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยการแพทย์ในพื้นที่ และอาสาสมัครในพื้นที่ เป็นต้น
        นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงการพัฒนาระบบของหน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน (Emergency Medical Service: EMS) โดยเฉพาะการขยายขีดความสามารถของปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินทางอากาศ (Sky Doctor) ให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญของประเทศ รวมถึงการยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถด้านการแพทย์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชน และโรงพยาบาลในท้องถิ่น และแสวงหาแนวทางในการเพิ่มบทบาทให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคประชาสังคม เพื่อส่งเสริมศักยภาพให้ท้องถิ่นสามารถรับมือกับเหตุฉุกเฉิน ตั้งแต่การรับแจ้งเหตุ การเผชิญเหตุและและการปฏิบัติการ การรักษาและการฟื้นฟู ให้มีความเหมาะสมกับรูปแบบของเหตุการณ์ โดยการเสริมสร้างความรู้ให้กับหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ เช่น กู้ภัย หรือจิตอาสา ในการช่วยเหลือและให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างทันท่วงที
        ทั้งนี้ ผู้บริหารของทั้งสองหน่วยงานได้มีการหารือเกี่ยวกับภาพรวมและความสอดคล้องของการดำเนินการภายใต้แผนและกลไกที่เกี่ยวข้องในกรอบของยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.๒๕๖๑ – ๒๕๘๐) (ร่าง) แผนเตรียมพร้อมแห่งชาติและแผนบริหารวิกฤตการณ์ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) แผนหลักการแพทย์ฉุกเฉินฉบับที่ ๔ (พ.ศ.๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) และแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๗๐ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายของแผนระดับนโยบายที่ได้กำหนดไว้

กองความมั่นคงด้านการเตรียมพร้อมและการป้องกันประเทศ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

        สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้จัดการประชุมชี้แจงแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมในประเทศไทย (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) ในวันศุกร์ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๖ ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ โดยมี พลเอก สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธานพิธีเปิด และมีผู้เข้าร่วมการชี้แจงฯ ประกอบด้วย ผู้บริหารและผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ในส่วนกลางและระดับจังหวัด (ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก) รวมทั้งผู้แทนภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้แทนภาควิชาการจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์ทุกภาค
        เนื่องด้วยสังคมไทยมีลักษณะสังคมพหุวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ วัฒนธรรม ศาสนา ความเชื่อ และวิถีชีวิต รวมทั้งจากการรวมกลุ่มผ่านทางสังคมออนไลน์ และกลุ่มเพศทางเลือก โดยสังคมที่มีความหลากหลายนี้ บางกลุ่มมีความไม่เข้าใจและไม่ยอมรับในความแตกต่างของกันและกัน นำไปสู่ความขัดแย้งภายในสังคม จนบางครั้งส่งผลต่อปัญหาความรุนแรงในที่สุด อันเป็นอุปสรรคต่อการอยู่ร่วมกัน อีกทั้ง ในความหลากหลายเหล่านั้น มีความท้าทายที่รัฐต้องจัดระบบ และการบริหารจัดการในด้านต่าง ๆ ให้เหมาะสมและมีความทั่วถึง บนความเข้าใจในความหลากหลายที่มีอยู่ เพื่อเสริมสร้างให้สังคมมีความเข้มแข็ง คนทุกกลุ่มสามารถอยู่ร่วมกันได้ ร่วมเป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของพลเมืองโลก ตามเป้าหมายและเจตนารมณ์ที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ คือ การทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข มีเศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีสังคมที่เป็นธรรม และมีฐานทรัพยากรธรรมชาติที่ยั่งยืน
        สมช. จีงได้จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมในประเทศไทยฉบับนี้ โดยจุดมุ่งเน้นสำคัญในการส่งเสริมให้คนในชาติได้รับการประกันสิทธิขั้นพื้นฐานและการพัฒนาศักยภาพที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น อย่างเสมอภาคและไม่เลือกปฏิบัติ การบริหารจัดการบนความหลากหลายด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน รวมทั้งคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม ตลอดจนสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วม โดยในระยะแรกจะให้ความสำคัญกับกลุ่มชาติพันธุ์
        ซึ่งในการชี้แจงครั้งนี้เพื่อได้สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการฯ ให้เกิดการนำไปปฏิบัติร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งเกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ตามภารกิจของแต่ละหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเสริมสร้างสมรรถนะทางวัฒนธรรมที่เหมาะสม เอื้อต่อการบริหารจัดการความหลากหลายอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับหลักนิติรัฐ นิติธรรม และหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อส่งเสริมให้คนกลุ่มต่าง ๆ ในชาติสามารถอยู่ร่วมกันท่ามกลางความหลากหลายอย่างสันติสุข
        ทั้งนี้ สมช. จะดำเนินการชี้แจงให้หน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ได้รับทราบ เพื่อนำไปสู่การร่วมกันขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการในภาพรวมของทั้งประเทศต่อไป

กองความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้และชนต่างวัฒนธรรม
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์

        การชี้แจงแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวฒนธรรมในประเทศไทย (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) ณ ห้องแกรนด์เอบี ชั้น ๔ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ โดยมีพลเอก สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธาน เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคประชาสังคม ได้รับทราบแนวทางการดำเนินงาน และร่วมมือกันขับเคลื่อนแผนไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม https://fb.watch/i0tuO0qD87/

กองความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้และชนต่างวัฒนธรรม
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์

        วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 เวลา 16.00 น. นายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ร่วมงาน “ลอยกระทงวิถีใหม่ สืบสานประเพณีไทยสู่ความยั่งยืน” ณ คลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายกรัฐมนตรีและภริยา รวมทั้งคณะรัฐมนตรีพร้อมด้วยคู่สมรส ร่วมลอยกระทง
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

        เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม 2565เวลา 09.30 น. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล)/ประธานกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เป็นประธานในการประชุมชี้แจงการดำเนินงานภายใต้แผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ โดยมีสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ/สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สล.คปต.) เป็นฝ่ายเลขานุการฯ พร้อมทั้งมีกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลฯ และหน่วยงานเจ้าภาพแผนงาน/โครงการ ทั้ง กอ.รมน./กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ศอ.บต. สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม กรมประชาสัมพันธ์ รวมทั้ง ทางจังหวัด ทั้ง 4 จังหวัด (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา) รวมถึงหน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบกรอบแนวคิด เป้าหมาย และจุดเน้นสำคัญภายใต้แผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นไปตามกรอบนโยบายการบริหารและ การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2565 – 2567 และแผนปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง แนวทางการขับเคลื่อนงาน ที่เชื่อมต่อกับแผนงบประมาณตามภารกิจปกติของหน่วยงาน (Function-based) และแผนงบประมาณเชิงพื้นที่ (Area-based) ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด (จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา) โดยมีกลไกคณะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลฯ เป็นกลไกสำคัญในการให้ข้อเสนอแนะ ประสานงาน และติดตามการขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ในการนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล)/ประธานกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลฯ ได้เน้นย้ำให้ กอ.รมน. และ ศอ.บต. ในฐานะเจ้าภาพมิติด้านความมั่นคงและด้านการพัฒนา มุ่งเน้นขับเคลื่อนงานและติดตามการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณภายใต้แผนงานบูรณาการฯ โดยขอให้ มีการประสานงานกับจังหวัด เพื่อเชื่อมโยงการทำงานระหว่างโครงการและกิจกรรมภายใต้แผนงานบูรณาการฯ กับแผนงบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดให้เป็นไปอย่างประสานสอดคล้อง และตอบสนองต่อความต้องการ ของประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ได้มุ่งเน้นให้มีการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ประชาชนและทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานของภาครัฐยิ่งขึ้น เพื่อให้บรรลุผลตามเป้าหมายในระยะที่ 2 ของยุทธศาสตร์ชาติ และสอดคล้องตามนโยบายการบริหาร และการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

กองความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้และชนต่างวัฒนธรรม (กชต.)
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ