Skip to main content
เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 น. - 16.30 น.
ขนาดตัวอักษร
สีตัวอักษร

สภาความมั่นคงแห่งชาติ


ประวัติความเป็นมา

“สภาความมั่นคงแห่งชาติ” ของไทย ได้ถือกำเนิดขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระองค์ได้พระกรุณา
โปรดเกล้าฯ ให้มีสภาเกี่ยวกับการป้องกันราชอาณาจักรขึ้นในปี พ.ศ. 2453 เพื่อดำเนินการด้านการทหารในการป้องกันประเทศและได้ทรงเป็นประธานด้วยพระองค์เอง ต่อมาองค์กรสภาความมั่นคงแห่งชาติมีวิวัฒนาการมาเป็นลำดับ จนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติสภาความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2502 ซึ่งเป็นการขยายบทบาทหน้าที่อำนาจเพิ่มเติมจากการกำหนดนโยบายความมั่นคงด้านการทหารให้ครอบคลุมถึงนโยบายต่างประเทศ นโยบายเศรษฐกิจ ฯลฯ ที่เกี่ยวกับความมั่นคง รวมถึงการเป็นกฎหมายจัดตั้งสำนักงาน
สภาความมั่นคงแห่งชาติขึ้นเป็นส่วนราชการพลเรือน สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีอีกด้วย ทั้งนี้ ในการจัดตั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติของไทย
มีต้นแบบและได้รับแนวคิดมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา

2453
พ.ศ. 2453 – สภาความมั่นคง
แห่งชาติเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก

สภาความมั่นคงแห่งชาติเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงมีพระราชประสงค์จะให้มีการพิจารณางาน ในภารกิจ
ทางด้านการทหารเพื่อการป้องกันประเทศ
เป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบ มีประสิทธิภาพ และมีการประสานงานซึ่งกันและกัน จึงได้ทรงโปรดเกล้าให้มีสภาเพื่อทำหน้าที่ดังกล่าวขึ้น
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2453

2470
พ.ศ. 2470 – เปลี่ยนชื่อเป็น
“สภาป้องกันพระราชอาณาจักร”

ได้มีการปรับปรุงและแก้ไของค์ประกอบของสภามาเป็นลำดับ กล่าวคือในปี พ.ศ. 2470
ได้มีการแก้ไขปรับปรุงทั้งในด้านองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ และเรียกชื่อใหม่ว่า
“สภาป้องกันพระราชอาณาจักร”

2487
พ.ศ. 2487 – จัดตั้ง
“สภาการสงคราม”

เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2475 หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบการป้องกันราชอาณาจักรขึ้นใหม่ สภาป้องกันพระราชอาณาจักรจึงถูกยกเลิกไป
ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2487
ได้มีการจัดตั้ง “สภาการสงคราม” ขึ้น
โดยออกเป็นพระราชบัญญัติชื่อว่าพระราชบัญญัติสภาการสงคราม ซึ่งนับเป็นพระราชบัญญัติฉบับแรกที่เกี่ยวกับ
สภาความมั่นคงแห่งชาติ

2499
พ.ศ. 2499 – ออกพระราชบัญญัติสภาป้องกันราชอาณาจักรใหม่

31 มกราคม พ.ศ. 2499 ได้มีพระราชบัญญัติสภาป้องกันราชอาณาจักรออกมาใหม่
ยกเลิกพระราชบัญญัติเดิม

2502
พ.ศ. 2502 – ประกาศใช้
พระราชบัญญัติสภาความมั่นคง
แห่งชาติ พ.ศ. 2502

ได้มีการปรับปรุงและแก้ไของค์ประกอบ
ของสภามาเป็นลำดับ กล่าวคือในปี
พ.ศ. 2470 ได้มีการแก้ไขปรับปรุงทั้งในด้านองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ และเรียกชื่อใหม่ว่า “สภาป้องกันพระราชอาณาจักร”

2559
พ.ศ. 2559 – ประกาศใช้
พระราชบัญญัติสภาความมั่นคง
แห่งชาติ พ.ศ. 2559

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2559 ได้ประกาศใช้
พระราชบัญญัติสภาความมั่นคงแห่งชาติ
พ.ศ. 2559 ซึ่งเป็นการปรับปรุงแก้ไข
พระราชบัญญัติสภาความมั่นคงแห่งชาติ
พ.ศ. 2502 ในลักษณะยกเลิกกฎหมายเดิม และตรากฎหมายฉบับใหม่ขึ้น โดยพระราชบัญญัติฯ ฉบับนี้ มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย
มาจนถึงปัจจุบัน

ปัจจุบัน
ปัจจุบัน – สภาความมั่นคงแห่งชาติ

ประกาศใช้พระราชบัญญัติสภาความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2502 นับเป็นการเปลี่ยนแปลงจาก “สภาป้องกันราชอาณาจักร” เป็น
“สภาความมั่นคงแห่งชาติ”
มาจนกระทั่งทุกวันนี้

“พัฒนาการของสภาความมั่นคงแห่งชาติ” สมช. ได้มีการพัฒนามาเป็นระยะ โดยสามารถแบ่งตามบริบทของสถานการณ์ของประเทศไทย
ในขณะนั้นหรือการตรากฎหมายขึ้น ซึ่งมี 3 ระยะ ดังนี้

1. สภาความมั่นคงแห่งชาติของไทยในยุคเริ่มต้นจนถึงยุคก่อนปัจจุบัน (พ.ศ. 2453 – 2501)

เนื่องจากในสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริให้การดำเนินงานทางด้านการทหารเพื่อการป้องกันประเทศ
มีการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ มีประสิทธิภาพ และมีการประสานงานกัน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้มีสภาขึ้นเพื่อทำหน้าที่ดังกล่าวในปี พ.ศ. 2453 ซึ่งในครั้งนั้น ยังไม่มีการเรียกชื่อเป็นการเฉพาะ เรียกแต่เพียงว่าเป็นสภาเกี่ยวกับการป้องกันพระราชอาณาจักรเท่านั้น และมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประธาน

ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชดำริว่าสภาที่ตั้งขึ้นซึ่งมีภารกิจเกี่ยวกับการพิจารณาป้องกัน
พระราชอาณาจักรนั้น สมควรปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนกิจการทหารที่ได้มีวิวัฒนาการมาโดยลำดับ
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2470 ให้ยกเลิกสภาที่มีอยู่ และตั้งสภาขึ้นใหม่ โดยมีชื่อว่า “สภาป้องกันพระราชอาณาจักร” โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์ประธานในตำแหน่ง ทั้งนี้สภาฯ ดังกล่าวถูกยกเลิกไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2475

ในระหว่างปี พ.ศ. 2482 – 2487 ซึ่งอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยประกาศใช้ “พระราชบัญญัติสภาการสงคราม พุทธศักราช 2487” ซึ่งนับได้ว่าเป็นพระราชบัญญัติฉบับแรกเกี่ยวกับเรื่องสภาความมั่นคงแห่งชาติ และมีการตั้ง “สภาการสงคราม” ขึ้น โดยมีหน้าที่พิจารณาเรื่องเกี่ยวกับการสงครามทั้งในทางทหาร ทางเศรษฐกิจ ทางการเมืองทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนสวัสดิการของประชาชนและมีอำนาจปฏิบัติกิจการทั้งปวงอันจะเป็นประโยชน์แก่การดำเนินการสงคราม ทั้งนี้สภาฯ ดังกล่าวมีอายุเพียง ๘ เดือน จึงเลิกล้มไป เนื่องจากได้มีการออก “พระราชบัญญัติสภาป้องกันราชอาณาจักร พุทธศักราช 2487” ขึ้นแทน ทั้งนี้ พระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว ได้มีการปรับปรุงแก้ไขจนถึงฉบับที่ 3 และเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2499 มีพระราชบัญญัติสภาป้องกันราชอาณาจักร พุทธศักราช 2499 ออกใช้ โดยให้ยกเลิกพระราชบัญญัติทั้งหมด

2. สภาความมั่นคงแห่งชาติในยุคก่อนปัจจุบัน (พ.ศ. 2502 – 2558)

สภาป้องกันราชอาณาจักรได้ดำเนินการเรื่อยมาจนถึง พ.ศ. 2502 จึงได้มีการปรับปรุงอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยมีบทบัญญัติให้ยกเลิก “สภาป้องกันราชอาณาจักร” และประกาศใช้ “พระราชบัญญัติสภาความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2502” เป็น
“สภาความมั่นคงแห่งชาติ”
เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2502 โดยนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้แต่งตั้งให้ “พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ” เป็น
“เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ” จึงนับได้ว่าพลตรี หลวงวิจิตรวาทการเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติท่านแรกของสำนักงาน
สภาความมั่นคงแห่งชาติตามพระราชบัญญัตินี้ โดยการดำเนินการของสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นไปในรูปแบบของการระดมความคิดเห็นจาก
ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาปรึกษาในเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญ ได้แก่ คณะกรรมการร้อยกรองงานฯ คณะกรรมการ
ประสานงานฯ คณะกรรมการนโยบายฯ คณะกรรมการเตรียมพร้อมแห่งชาติ คณะกรรมการนโยบายและอำนวยการแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายสากล และคณะกรรมการอำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ เป็นต้น

โดยสภาความมั่นคงแห่งชาติมีหน้าที่และอำนาจในการพิจารณาเสนอแนะคณะรัฐมนตรีในเรื่องนโยบายภายใน นโยบายต่างประเทศ
และนโยบายการทหารกับการเศรษฐกิจ ฯลฯ อันเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งชาติให้สอดคล้องกัน เพื่อให้กิจการทหารและกระทรวง ทบวง กรม
และองค์กรอื่น ๆ ของรัฐ สามารถประสานกันได้อย่างใกล้ชิดและเป็นผลดีต่อความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงการพิจารณาเกี่ยวกับความมั่นคง
แห่งชาติ ตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย

สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากรม สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี และขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่อว่า “เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ” เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญรับปลัดกระทรวง และข้าราชการประจำ
ในสำนักงานฯ มีสถานะเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ทั้งนี้ การแบ่งงานภายในสำนักงานฯ เดิมแบ่งออกเป็นส่วนใหญ่ ๆ 3 ส่วน คือ ส่วนกลาง ส่วนนโยบาย และส่วนประสานงาน ตามแบบของสหรัฐฯ โดยส่วนนโยบายแบ่งออกเป็น 4 กอง คือ กองการเมืองภายใน กองการเมืองภายนอก กองนโยบายเศรษฐกิจ และกองนโยบายทหาร ซึ่งสำนักงานฯ มีการพัฒนาองค์กรตามยุคสมัยมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์
ความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงไป และเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 ได้ประกาศใช้กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2554 ก่อนที่จะเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคปัจจุบัน

3. สภาความมั่นคงแห่งชาติยุคปัจจุบัน (พ.ศ. 2559 – ปัจจุบัน)

จากสถานการณ์และปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงของชาติในปัจจุบันมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติต้องมีระบบ กระบวนการ ขั้นตอนการดำเนินงานที่ซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น สภาพปัญหาและภัยคุกคามมีความละเอียดอ่อน เชื่อมโยงกันในทุกระดับ ส่งผลกระทบในหลายมิติ จึงจำเป็นต้องพัฒนากลไกการแก้ไขปัญหา
ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการด้านความมั่นคงแห่งชาติและการรักษาความมั่นคงแห่งชาติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและพร้อมรองรับสถานการณ์ด้านความมั่นคงและแนวโน้มภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติยิ่งขึ้น โดยในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 มีมติเห็นชอบให้ทุกส่วนราชการเร่งจัดทำร่างกฎหมายใหม่หรือปรับปรุงกฎหมายเดิมและเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎหมายที่ล้าสมัย หรือเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ ซึ่งในส่วนของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาตินั้น รองนายกรัฐมนตรีรับผิดชอบด้านกฎหมายในขณะนั้น (นายวิษณุ เครืองาม) พิจารณาเห็นควรให้หน่วยงานพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยสภาความมั่นคงแห่งชาติ เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับมานาน สมควรแก้ไขปรับปรุงให้สอดคล้องกับบริบทของสถานการณ์ด้านความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยเหตุนี้ สำนักงานฯ จึงได้ปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติสภาความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2502 ในลักษณะยกเลิกกฎหมายเดิม พร้อมทั้งผ่านกระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง จนในวันที่ 26 กันยายน 2559 พระราชบัญญัติสภาความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ.2559 ได้ประกาศลงในราชกิจจา
นุเบกษาให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายมาจนถึงปัจจุบัน

Loading

Top
Page Reader Press Enter to Read Page Content Out Loud Press Enter to Pause or Restart Reading Page Content Out Loud Press Enter to Stop Reading Page Content Out Loud Screen Reader Support