Accessibility Tools

Skip to main content
เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 น. - 16.30 น.
ขนาดตัวอักษร
สีตัวอักษร

ผู้เขียน: Theenaphat Kenyota

นายราอุฟ มาซู (Mr. Raouf Mazou) ผู้ช่วยข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ

       เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๘ นายราอุฟ มาซู (Mr. Raouf Mazou) ผู้ช่วยข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ณ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล โดยได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในหลายประเด็น ดังนี้ ๑) แนวทางการบริหารจัดการและการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ๒) สถานการณ์ผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในภูมิภาค ๓) แนวทางความร่วมมือระหว่างสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย ในอนาคต

กองความมั่นคงภายในประเทศ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

ข้อมูลชี้แจง เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักร

• การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 มีมติอนุมัติให้เสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาเพื่อแก้ไขปัญหาสถานะของชนกลุ่มน้อย/กลุ่มชาติพันธุ์ 19 กลุ่มที่อาศัยและอพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน รวมทั้งกลุ่มบุตรหลานของคนกลุ่มดังกล่าวที่เกิดและเติบโตในประเทศไทย ใช้ชีวิตร่วมกับคนไทยอย่างสงบ สันติสุข และมีความผูกพันกับแผ่นดินนี้โดยแท้จริง ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่เสนอ

• ในความเป็นจริง กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นต่างด้าวหน้าใหม่ แต่คือ ผู้ที่อยู่ในสังคมไทยมานาน หลายครอบครัวอยู่กันมารุ่นต่อรุ่น โดยไม่มีสถานะทางกฎหมายที่แน่นอน ดังนั้น การให้สถานะหรือสัญชาติกับบุคคลกลุ่มนี้ จึงไม่ใช่การให้ใครก็ได้เข้ามาแล้วรับสิทธิในทันที โดยเฉพาะ แรงงานต่างด้าวจากเมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม

• มติคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้มุ่งหมายแก้ปัญหาที่เกี่ยวเนื่องจากสถานะบุคคลตามกฎหมายที่ไม่ชัดเจนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยกำหนดเงื่อนไขการได้สถานะอย่างชัดเจนและรัดกุมรอบคอบให้เฉพาะกลุ่มเป้าหมายชนกลุ่มน้อย/กลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งได้รับการสำรวจ คัดกรอง และพิสูจน์เพื่อพัฒนาสถานะของบุคคล ปรากฏรายชื่ออยู่ในฐานข้อมูลของกรมการปกครองแล้ว ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่าวกำหนดกรอบระยะเวลาใช้บังคับ 1 ปี ซึ่งผู้ยื่นคำขอจะต้องรับรองคุณสมบัติของตนเอง โดยหากให้ข้อมูลเท็จหรือพบพฤติการณ์ที่เป็นภัยจะถูกเพิกถอนสถานะในภายหลัง

• การได้สถานะ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ 1) การได้ใบสำคัญถิ่นที่อยู่เพื่ออาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยอย่างถาวรและถูกต้องตามกฎหมายของกลุ่มชนกลุ่มน้อย/กลุ่มชาติพันธุ์ที่อพยพเข้าไทย 19 กลุ่ม จำนวน 340,101 คน และ 2) การได้สัญชาติไทยของบุตรชนกลุ่มน้อย/กลุ่มชาติพันธุ์ที่เกิดในไทย จำนวน 143,525 คน

• ค่าธรรมเนียมในการดำเนินการต่าง ๆ ของทางราชการ กำหนดอยู่ที่ 900 บาท สำหรับผู้ยื่นคำขอเพื่อให้ได้ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ และ 100 บาท สำหรับผู้ยื่นคำขอเพื่อรับบัตรประจำตัวประชาชน ดังนั้น หากมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเกินอัตรา หรือค่าใช้จ่ายอื่นใด โปรดแจ้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต กรมการปกครอง หรือศูนย์ดำรงธรรม เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของการดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อป้องกันและปราบปรามผู้ไม่มีคุณสมบัติเข้ามาแสวงประโยชน์หรือถูกหลอกลวง และผู้ฉวยโอกาสแอบอ้างให้ความช่วยเหลือเพื่อหวังผลประโยขน์โดยมิชอบ

• ดังนั้น การให้สถานะจึงไม่ใช่การแย่งสิทธิคนไทย แต่เป็นการทำให้ทุกคนที่อาศัยอยู่ร่วมกันมีความชัดเจนในกฎหมาย เพื่อให้รัฐบริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบ ลดช่องโหว่การเอารัดเอาเปรียบ และที่สำคัญคือ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ในประเทศเดียวกันให้เป็นธรรมและมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามหลักสิทธิมนุษยชน การรักษาความมั่นคง และผลประโยชน์แห่งชาติ


สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

พิธีรับเหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗

       วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๘ เวลา ๑๑.๐๐ น. นายรพี โล่ชัยยะกูล ผู้อำนวยการกองความมั่นคงภายในประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ร่วมพิธีรับเหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ ห้อง ๑๐๙ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

กลุ่มงานบริหารงานสารบรรณและประชาสัมพันธ์
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๘

       เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๘ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๘ ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล ที่ประชุมฯ ได้รับทราบการประเมินสถานการณ์ความมั่นคงที่สำคัญในประเทศ รวมถึงแนวโน้มสถานการณ์ และผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา และการประเมินผลการปฏิบัติตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ ๔/๒๕๖๘ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงชายแดนไทย – กัมพูชา โดยที่ประชุมฯ ได้กำหนดมาตรการเพื่อยุติความขัดแย้งและลดความตึงเครียดโดยเน้นการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี พร้อมด้วยการพัฒนาแนวทางเชิงรุกต่อกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติบริเวณชายแดนดังกล่าวให้เกิดผล เพื่อปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และรักษาความมั่นคงและความเป็นอยู่โดยปกติสุขของประชาชนชาวไทย

       นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้ให้ความสำคัญกับการประเมินและทบทวนมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่ชายแดนไทย – เมียนมาให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการดำเนินการต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

กองนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเข้าร่วมงานวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐฯ ณ Topgolf Megacity

       เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๘ นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ ๒๔๙ ปี วันประกาศอิสรภาพของสหรัฐฯ (วันชาติสหรัฐฯ) ณ ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ จ.สมุทรปราการ โดยมีนาย โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ให้การต้อนรับ ในโอกาสดังกล่าว นายโกเดคได้แสดงความขอบคุณและให้กำลังใจนายฉัตรชัยฯ สำหรับการจัดการความท้าทายด้านความมั่นคงต่าง ๆ ในปัจจุบัน

       On June 25, 2025, Mr. Chatchai Bangchaud, Secretary-General of the National Security Council of Thailand, attended the celebration marking the 249th anniversary of the independence of the United States of America (U.S. Independence Day) at Topgolf Megacity, Samut Prakan. On this occasion, H.E. Mr. Robert F. Godec, U.S. Ambassador to Thailand expressed his appreciation and encouragement to the Secretary-General for his efforts in addressing current security challenges.

กองความมั่นคงระหว่างประเทศ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

GFEAI 2025 ปิดฉากยิ่งใหญ่ นายกฯ แพทองธาร นำวิสัยทัศน์ Human-Centric AI กระทรวง DE พร้อมขับเคลื่อนธรรมาภิบาล AI ดัน AIGPC ศูนย์กลางจริยธรรม AI ภูมิภาค

กรุงเทพฯ, 28 มิถุนายน 2568 – ประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับโลก “The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025 (GFEAI 2025)” ระหว่างวันที่ 24–27 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้นำ นักวิชาการ และผู้แทนจากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก มากกว่า 1,000 คน ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและออกแบบทิศทางการพัฒนา AI ที่มี “จริยธรรม โปร่งใส และยั่งยืน” พร้อมเปิดฉากเดินหน้าศูนย์ AI Governance Practice Center (AIGPC) ดันไทยสู่ศูนย์กลางจริยธรรม AI ระดับภูมิภาค ภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
       นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุม พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ “AI เพื่อมนุษย์ทุกคน” โดยเน้นการพัฒนา Human-Centric AI ที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต มุ่งเน้นทั้งภาคเกษตร การแพทย์ และการศึกษา รวมถึงรับมือกับภัยคุกคามทางดิจิทัล ผ่านการเสริมสร้างทักษะ Digital Literacy ให้ประชาชน รัฐบาลยังประกาศงบลงทุนด้าน AI รวมกว่า 15.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และตั้งเป้าสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาทภายในปี 2570 พร้อมจัดตั้งศูนย์ AI Governance Practice Center (AIGPC) แห่งแรกในเอเชีย-แปซิฟิค พร้อมร่วมมือกับ UNESCO และเตรียมผลักดันให้เป็น Category 2 Centre อย่างเป็นทางการในอนาคต
       ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการขับเคลื่อน AI อย่างมีจริยธรรม ทั้งในเชิงนโยบายและการใช้งานจริง โดยเฉพาะในภาคเศรษฐกิจ ภาคอุตสาหกรรม และบริการ พร้อมประกาศเป้าหมายการพัฒนาบุคลากรด้าน AI ผู้เชี่ยวชาญ 90,000 คน นักพัฒนา 50,000 คน และเข้าถึงผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านคน รวมถึงการผลักดันแผนยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติอย่างต่อเนื่อง
       ภายในงานยังได้มีการหารือเชิงลึกถึงแนวทางการจัดตั้งเครือข่ายผู้กำกับดูแล AI ระดับโลก Global Network of AI Supervising Authorities – GNAIS เพื่อร่วมกันพัฒนาหลักปฏิบัติ ที่ยึดหลักสิทธิมนุษยชน ความโปร่งใส ความหลากหลาย และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยประเทศไทยได้รับการยกย่องในฐานะผู้นำระดับภูมิภาค ที่ขับเคลื่อนนโยบายและแนวทางปฏิบัติด้าน AI อย่างรอบด้าน
       เวทีนี้ยังเป็นพื้นที่แห่งความร่วมมือหลากมิติ รวมไปถึงในระดับทวิภาคีระหว่างไทยกับหลายประเทศ เช่น อินโดนีเซีย ที่ร่วมกำหนดแนวทางจริยธรรม AI และการกำกับดูแลแพลตฟอร์ม การร่วมมือกับมาเลเซีย เพื่อนำไปสู่การแลกเปลี่ยนในด้าน AI เมืองอัจฉริยะและเกมดิจิทัล พร้อมการเตรียมเข้าร่วม ASEAN AI Summit ในระยะต่อไป นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสในการผนวกความร่วมมือกับผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิจัย และภาคประชาสังคม ร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์ในประเด็นต่าง ๆ เช่น นวัตกรรม การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ความเป็นธรรมทางเพศและสังคม ระบบนิเวศการลงทุนในเทคโนโลยี AI ที่ปลอดภัย มีความรับผิดชอบ และยึดหลักจริยธรรม
       อีกหนึ่งความสำเร็จที่โดดเด่น คือการผลักดันให้กรอบการประเมินความพร้อมด้าน AI ของยูเนสโก หรือ UNESCO RAM (UNESCO Readiness Assessment Methodology) กลายเป็นเครื่องมือหลักในการยกระดับศักยภาพของภูมิภาคอาเซียน โดยประเทศไทยร่วมกับประเทศในภูมิภาค นำกรอบนี้ไปใช้ในการวางระบบกำกับดูแล AI การส่งเสริม Open Data และ Open Source การพัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการกำหนดยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ
       งานนี้ ยังมีการลงนามบันทึกความร่วมมือ 3 ฝ่าย ระหว่าง ETDA, NECTEC และ DataDotOrg เพื่อร่วมกันเร่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้าน Data & AI ครอบคลุมเป้าหมายกว่า 10,000 คน ภายใน 2 ปี และสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ AI ที่ยั่งยืนในระดับประเทศและภูมิภาค
       ด้านการศึกษาและเยาวชน เยาวชนไทยกว่า 200 คนได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในงาน โดยเฉพาะประเด็น “AI for Children” ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก จากการเปิดเผยข้อมูลของ UNICEF ว่าเด็กกว่า 60% ในเอเชียตะวันออกเริ่มใช้งาน AI โดยไม่รู้เท่าทันความเสี่ยง ขณะที่ประเทศไทยเดินหน้าเปิดตัวโครงการ “Digital Vaccine powered by DQ” และอีก 2 โครงการหลัก ได้แก่ YDCD และ Digitally Ready เพื่อยกระดับความพร้อมของโรงเรียนไทยสู่การเป็น AI-Ready School ซึ่งเป็นต้นแบบให้ภูมิภาคกว่า 10 ประเทศภายในปี 2569
       การประชุมยังเป็นเวทีสำคัญในการสร้างความร่วมมือระดับทวิภาคี โดยไทยได้หารือกับหลายประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านธรรมาภิบาล AI เมืองอัจฉริยะ และความร่วมมือทางการศึกษาด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะกับอินเดีย ซึ่งเป็น Tech Powerhouse ของกลุ่มประเทศ Global South ไทยและอินเดียได้ร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องมากว่า 2 ปี และกำลังขยายผลในเชิงปฏิบัติ เช่น การเชิญผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เข้าร่วมพัฒนาโครงการในประเทศไทย
       การเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้สะท้อนว่า “ประเทศไทยไม่ใช่เพียงผู้ตามเทคโนโลยี” หากแต่เป็นผู้กำหนดแนวทางสู่การใช้ AI ที่สอดคล้องกับค่านิยมพื้นฐานของมนุษย์ ทั้งในด้านสิทธิมนุษยชน ความเสมอภาค และธรรมาภิบาล โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรในภูมิภาค ยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางความร่วมมือด้าน AI (AI Cooperation Hub) แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และวางรากฐานสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่มีจริยธรรมและยั่งยืนในระยะยาว
       GFEAI 2025 ในปีนี้ จึงไม่ใช่เพียงเวทีประชุมวิชาการระดับนานาชาติเท่านั้น แต่ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนความพร้อมของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านจริยธรรม AI ทั้งในระดับชาติ ภูมิภาค และระดับโลก สู่อนาคตที่โปร่งใส ยั่งยืน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง อีกทั้ง ภาพรวมของการเกิดขึ้นของมหกรรม Bangkok AI Week 2025 ยังได้เป็นการรวมตัวของเหล่าผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่สนใจในประเด็นเชิงสังคม การเปิดตัวโครงการที่น่าสนใจของไทยจากภาคประชาสังคม และยังรวมไอเดีย เพื่อจุดประกายให้ผู้ประกอบการไทยได้เกิดแนวคิดที่นอกเหนือจากการเป็นผู้ใช้งานสู่ผู้พัฒนาในระยะต่อไป ยิ่งเป็นการเน้นย้ำถึงการจุดประกายความร่วมมือที่สร้าง “จุดเปลี่ยน” เพื่อนำไปสู่การกำหนดทิศทางของประเทศเพื่อพาไทยสู่อนาคต AI ที่ยั่งยืน-ติดตามความสำเร็จของเวทีระดับโลกได้ที่เพจ ETDA Thailand

Loading

ประกาศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ รับสมัครพนักงานขับรถส่วนกลาง จำนวน ๗ อัตรา

      ประกาศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ รับสมัครพนักงานขับรถส่วนกลาง จำนวน ๗ อัตรา โดยมีรายละเอียดดังนี้

Loading

ถอดประเด็นสำคัญจาก Press Conference The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025

ไทยก้าวสู่บทบาท “ผู้นำจริยธรรม AI แห่งเอเชีย”ถอดประเด็นเด่นจาก Press Conference :The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025
.
เปิดการประชุมระดับโลกด้านจริยธรรม AI อย่างเป็นทางการแล้ว หนึ่ง Session ที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน ไม่แพ้ช่วง Open Ceremony นั่นก็คือ ช่วงการแถลงข่าว (Press Conference) จากผู้นำฝั่งไทยและ UNESCO นำโดย
.
📍นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม
📍ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม
📍Ms.Lidia Brito – Assistant Director-General for Social and Human Sciences, UNESCO
.
เพื่อให้ทุกคนไม่พลาดทุกช่วงสำคัญ เราสรุปประเด็นเด่นจากเวทีแถลงข่าวในครั้งนี้มาฝากกัน!
.
☑️ไทยประกาศตัวเป็น “ศูนย์กลางจริยธรรม AI” แห่งเอเชียแปซิฟิก
การจัดเวทีนี้ไม่ใช่แค่การเป็นเจ้าภาพ แต่คือ การเปิดประเทศรับบทผู้นำภูมิภาค โดยเฉพาะการร่วมมือกับ UNESCO เพื่อจัดตั้ง AI Governance Practice Center (AIGPC) ที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางการฝึกอบรม วิจัย และขับเคลื่อนมาตรฐาน AI อย่างมีจริยธรรม โดยศูนย์นี้อาจกลายเป็น ‘ศูนย์ประเภท 2 (Category 2)’ แห่งที่สี่ของ UNESCO หากได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ
.
☑️ไทยทุ่มลงทุนใหญ่ใน AI กว่า 15.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในช่วงปี 2568–2570 รัฐบาลตั้งเป้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับการพัฒนา AI ทั้ง Data Center, Cloud, โครงข่าย 5G, HPC และอื่น ๆ เพื่อให้ประเทศไทยพร้อมรองรับการใช้งาน AI อย่างยั่งยืน พร้อมตั้งเป้า พัฒนาบุคลากรด้าน AI ไม่น้อยกว่า 100,000 คน/ปี เพื่อวางรากฐานให้ระบบนิเวศ (AI Ecosystem) ของไทยแข็งแรงในทุกมิติ
.
☑️แผน AI เดินต่อไม่สะดุด ภายใต้ “คณะกรรมการ AI แห่งชาติ”
เพื่อความต่อเนื่อง ไทยจัดตั้ง “คณะกรรมการ AI แห่งชาติ” ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีนั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ผลักดันนโยบายอย่างต่อเนื่อง แม้อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรี รับประกันได้แผน AI ไทยไม่สะดุดกลางทาง
.
☑️ไทย พร้อมเดินหน้าทำงานร่วมกับทุกฝ่าย
ไทยเดินหน้าขับเคลื่อนด้านเทคโนโลยี ร่วมกับประเทศอื่นๆ ทั้งจากฝั่งตะวันตกและตะวันออก เพราะในโลก AI วันนี้ ความร่วมมือสำคัญกว่าการแข่งขัน พร้อมส่งเสริมการพัฒนา AI ที่ตอบโจทย์ของตัวเอง โดยอิงบริบทท้องถิ่น ความหลากหลาย และคุณภาพชีวิตของประชาชนไทย ที่สำคัญยัง ผนึกกำลังด้าน AI กับ อินเดีย ผ่าน MOU ความร่วมในด้านเทคโนโลยีมานานกว่า 2 ปี ปัจจุบันมีแผนนำผู้เชี่ยวชาญ AI จากอินเดียเข้ามาทำงานร่วมกับหน่วยงานไทย เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ยกระดับศักยภาพของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
อินเดียถูกยกให้เป็น Tech Powerhouse ของกลุ่มประเทศ Global South การจับมือกันครั้งนี้คือการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่
.
☑️มาตรฐาน AI ต้องคิด “ข้ามพรมแดน” ไม่ใช่แค่ในประเทศ
เพราะ AI ไม่มีพรมแดน การกำหนดมาตรฐานต้องอาศัย “จุดร่วม” ไม่ใช่ “ความแตกต่าง” ดังนั้น ไทยและ UNESCO จึงผลักดันแนวทาง Regional Approach เรียนรู้จากกรณีศึกษาภูมิภาค นำมาประยุกต์สู่ข้อเสนอระดับโลก
.
☑️AI กับภารกิจ “สู้ภัยไซเบอร์–ข่าวปลอม”
AI ไม่ได้มีดีแค่สร้างเศรษฐกิจ แต่ยังกลายเป็นโล่ป้องกันสังคม โดยปัจจุบัน ไทยใช้ AI ตรวจจับข่าวปลอมได้มากกว่า 3,000 เรื่อง/วัน พร้อมร่วมมือกับ Interpol กับการเป็นผู้นำศูนย์ไซเบอร์ของอาเซียน และช่วยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลอาชญากรรมไซเบอร์ระหว่างประเทศ
.
☑️ไทยพร้อมก้าวขึ้นเป็น “ศูนย์กลาง AI แห่งภูมิภาค”
การจัดฟอรัมนี้เป็นทั้ง “เวทีระดับโลก” และ “บทพิสูจน์ความพร้อมของไทย” ทั้งในด้านยุทธศาสตร์, นโยบายที่ชัดเจน, การลงทุน, โครงสร้างพื้นฐาน และความร่วมมือระหว่างประเทศ ศูนย์ AIGPC ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นหัวใจในการฝึกอบรมบุคลากร AI ระดับภูมิภาค ส่งเสริมจริยธรรม เทคโนโลยีที่โปร่งใส และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
.
“AI ที่ดี ไม่ใช่แค่ฉลาด…แต่ต้องมีจริยธรรม มีหัวใจ และสร้างอนาคตร่วมกันได้”
.
ติดตามบทสรุปและความเคลื่อนไหวของThe 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025 ได้ที่
👉 Facebook: ETDA Thailand
👉 เว็บไซต์: www.globalforumethicsai.com
———————–
Thailand Emerges as Asia’s Leader in AI Ethics
Key Highlights from the Press Conference at The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025
The global stage on AI ethics is now officially open! One of the most talked-about sessions aside from the grand Opening Ceremony was the Press Conference featuring Thai and UNESCO leadership, including:
📍Mr. Prasert Jantararuangthong, Deputy Prime Minister and Minister of Digital Economy and Society
📍Prof. Wisit Wisitsora-at, Permanent Secretary, Ministry of Digital Economy and Society
📍Ms. Lidia Brito, Assistant Director-General for Social and Human Sciences, UNESCO
To keep you in the loop, here are the top takeaways from this high-profile session:
☑️Thailand Declares Itself the “AI Ethics Hub of Asia-Pacific”
This forum is more than just about hosting—it marks Thailand’s bold move to lead the region. In partnership with UNESCO, the country is establishing the AI Governance Practice Center (AIGPC) in Bangkok to spearhead training, research, and standard-setting in ethical AI. If officially recognized, it will become the fourth Category 2 Centre under UNESCO’s global framework.
☑️$15.4 Billion Investment in AI Infrastructure
From 2025 to 2027, the Thai government is investing heavily in AI-supportive infrastructure Data Centers, Cloud systems, 5G networks, HPC and aims to develop at least 100,000 AI professionals per year, laying a strong foundation for a sustainable AI ecosystem nationwide.
☑️Long-Term Vision Secured by the National AI Committee
To ensure policy continuity, Thailand has established the National AI Committee, chaired by the Prime Minister. This guarantees that no matter how politics shift, the country’s AI roadmap stays firmly on course.
☑️Thailand Champions Global Cooperation over Competition
Thailand believes that in today’s AI landscape, collaboration beats competition. Working with both Western and Eastern partners, Thailand promotes localized, inclusive AI development that reflects its own context and values. A key highlight: Thailand’s ongoing AI cooperation with India, a Global South tech powerhouse. Under a long-standing MOU, Indian AI experts are now working with Thai agencies to boost national capability.
☑️AI Standards Must Transcend Borders
AI knows no borders. That’s why Thailand and UNESCO are pushing for a regional approach to AI ethics—building global proposals informed by local and regional case studies to find common ground, not just differences.
☑️AI as a Shield Against Cyber Threats and Misinformation
Beyond boosting economies, AI is also Thailand’s digital defense. Today, AI tools in Thailand detect over 3,000 fake news stories daily. The country is also working with Interpol and ASEAN to combat cybercrime, shut down call center scams, and share cross-border intelligence.
☑️Thailand Ready to Be the Region’s AI Powerhouse
This forum is both a global platform and a testament to Thailand’s readiness—with clear strategies, robust investment, strong infrastructure, and international cooperation. The upcoming AIGPC will be central to training AI professionals across the Asia-Pacific region, promoting ethical and transparent technologies that leave no one behind.
“Good AI isn’t just smart—it must be ethical, human-centered, and built for a shared future.”
📍Stay updated with the latest from
The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025
👉 Facebook: ETDA Thailand
👉 Website: www.globalforumethicsai.com
.
#GlobalForumEthicsAI25 #GFEAI2025 #AIinMotion #AIEthics #EthicsOfAI #AIGovernanace #UNESCO #AIForum #MDES #DE #MHESI #mhesithailand #NECTEC #กระทรวงศึกษาธิการ #GlobalForum #ETDAThailand #ชีวิตดีเมื่อมีดิจิทัล

Loading

Quote คำพูด “รองนายกรัฐมนตรี” Press Conference

“เรามีความเชื่อว่า ด้วยความเปิดกว้าง การประเมินตนเอง และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องประเทศไทยสามารถเป็นแบบอย่างของการพัฒนาและใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบได้”
.
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวในเวที The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025
.
ไทยไม่เพียงรับหลักการของ UNESCO Recommendation on the Ethics of AI แต่เป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่ ลงมือจริง ผ่านเครื่องมือ RAM เพื่อประเมินความพร้อมของประเทศอย่างรอบด้าน
กระทรวงดีอี พร้อมเดินหน้าจัดเริ่มจัดตั้ง AI Governance Practice Center (AIGPC) ร่วมกับทาง UNESCO เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ระดับภูมิภาค ยกระดับมาตรฐานจริยธรรม AI สู่เวทีโลก สะท้อนภาพไทยในฐานะ “Regional Anchor” ที่โลกจับตา
.
ชี้ไทยเร่งใช้ AI แก้ปัญหา “จริง” ไม่ใช่แค่โมเดล
📍ตรวจจับข่าวปลอมกว่า 3,000 สถานการณ์/วัน
📍วิเคราะห์อาชญากรรมไซเบอร์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์
📍ทำงานเชิงรุกในอาเซียนในฐานะประธานศูนย์ความมั่นคงไซเบอร์ระดับภูมิภาค
.
ทุกอย่างเดินตามแผน การขับเคลื่อน AI ไทยไม่สะดุด ภายใต้ “คณะกรรมการ AI แห่งชาติ” เพื่อให้ “AI ของไทย” ก้าวไปด้วยความรับผิดชอบ โปร่งใส และเป็นธรรม
.
ติดตามความเคลื่อนไหวการประชุมวิชาการนานาชาติ The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025 ได้ที่ https://www.globalforumethicsai.com/
——
“We believe that through openness, self-assessment, and continuous learning, Thailand can serve as a model for responsible AI.”
– Mr. Prasert Chandraruangthong, Deputy Prime Minister and Minister of Digital Economy and Society of Thailand,
speaking at The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025
Thailand is not only embracing the principles of the UNESCO Recommendation on the Ethics of AI, but is also one of the first countries to put them into real action by completing a comprehensive national assessment using the Readiness Assessment Methodology (RAM).
The Ministry of Digital Economy and Society, in collaboration with UNESCO, is moving forward with the establishment of the AI Governance Practice Center (AIGPC),a regional hub for learning, sharing best practices, and elevating ethical AI standards to the global stage affirming Thailand’s emerging role as a “Regional Anchor” in AI governance.
Thailand is not treating AI as just a concept—but a solution for real-world problems:
📍 Detecting over 3,000 fake news scenarios per day
📍 Supporting cybercrime and call center scam analysis
📍 Leading proactive efforts in ASEAN as Chair of the Regional Cybersecurity Centre
All initiatives are moving forward as planned, Thailand’s AI momentum remains uninterrupted, thanks to the National AI Committee, which ensures long-term policy continuity beyond political transitions.
Thailand’s vision is clear:To advance responsible, transparent, and equitable AI—for the benefit of all.
.
📣 Stay updated with the The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025 at: https://www.globalforumethicsai.com/
.
#EthicalAI #ThailandAI #AIGPC #UNESCOAIForum #ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง #AIforGood #แพทองธาร #ประเสริฐจันทรรวงทอง #DigitalThailand

Loading

Quote คำพูด “นายกรัฐมนตรี” Opening ceremony

“ในฐานะผู้นำ เรามีหน้าที่ร่วมกันในการทำให้มั่นใจว่า เทคโนโลยี AI จะสร้างประโยชน์ที่แท้จริง ครอบคลุมทุกกลุ่ม และยั่งยืนสำหรับทุกคน”-นายกฯ แพทองธาร ประกาศอย่างชัดเจน บนเวที The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025 ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเช้าวันนี้ (25 มิ.ย.)
.
ประชาชนต้องอยู่ ณ แกนกลางของการพัฒนา AI และประเทศไทยขับเคลื่อน AI อย่างมีจริยธรรม ยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง สร้างโอกาส ไม่แทนที่แรงงาน
.
นายกฯ ชี้ 4 เงื่อนไขสำคัญของการใช้ AI อย่างรับผิดชอบ คือ มีกติกาที่ชัดเจน มีเครื่องมือที่แม่นยำในการตรวจสอบข้อมูล สร้างภูมิคุ้มกันด้วยความรู้เท่าทันดิจิทัล และต้องส่งต่อประโยชน์ให้ทุกคนอย่างแท้จริง
.
🌐 ด้วยการลงทุนกว่า 15.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และการส่งเสริมพลเมืองดิจิทัลนับล้านคน ไทยกำลังเปลี่ยน AI ให้เป็น “ประโยชน์สาธารณะ” เข้าถึงได้ เป็นธรรม และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
.
ประเทศไทยพร้อมเป็นผู้นำภูมิภาค ในการสร้างอนาคต AI ที่ปลอดภัย มีคุณธรรม และเพื่อทุกคน
.
ติดตามความเคลื่อนไหวการประชุมวิชาการนานาชาติ The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025 ได้ที่ https://www.globalforumethicsai.com/
———–
“As leaders, it is our shared duty to ensure that AI delivers real, inclusive, and lasting benefits for all.” Prime Minister of Thailand Paetongtarn Shinawatra made this clear in her keynote speech at The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025, officially launched this morning (25 June).
“People must remain at the heart of AI development.” Thailand is driving AI with integrity, ensuring it is human-centric, a force for empowerment not displacement.
📌 The Prime Minister outlined four key conditions for responsible AI use: Clear and transparent rules, Accurate tools to verify digital content, Universal digital literacy, And inclusive access to AI’s benefits for all
🌐 With over 15.4 billion USD in investment and millions of digitally empowered citizens, Thailand is transforming AI into a public good—accessible, equitable, and leaving no one behind.
.
Thailand is ready to lead the region in building a future for AI that is safe, ethical, and for everyone.
.
📣 Stay updated with the The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025 at: https://www.globalforumethicsai.com/
.
#AIGPC #แพทองธาร #ThailandAI #AIGovernance #GlobalForumEthicsAI25 #GFEAI2025 #AIinMotion #AIEthics #EthicsOfAI #AIGovernanace #UNESCO #AIForum #MDES #DE #MHESI #mhesithailand #NECTEC #กระทรวงศึกษาธิกา

Loading

💥ไทยยืนหนึ่งเวทีโลก! นายกฯ “แพทองธาร” ประกาศวิสัยทัศน์ ขับเคลื่อน AI อย่างมีจริยธรรม เพื่อทุกคน พร้อมเปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ “The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ดัน AIGPC สู่ศูนย์ธรรมาภิบาล AI แห่งแรกของเอเชีย

💥ไทยยืนหนึ่งเวทีโลก! นายกฯ “แพทองธาร” ประกาศวิสัยทัศน์ ขับเคลื่อน AI อย่างมีจริยธรรม เพื่อทุกคน พร้อมเปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ “The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ดัน AIGPC สู่ศูนย์ธรรมาภิบาล AI แห่งแรกของเอเชีย
.
เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับการประชุมวิชาการนานาชาติ “The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ท่ามกลางสายตาของผู้นำกว่า 104 ประเทศ รวมกว่า 1,000 คน ณ ห้องคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ ชั้น 22 เซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
.
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมระดับนานาชาติ แสดงวิสัยทัศน์อย่างภาคภูมิ ระบุว่า AI ไม่ใช่เพียงเรื่องของเทคโนโลยี แต่คือเรื่องของ “คุณค่า ความเท่าเทียม และอนาคตของมนุษยชาติ” พร้อมชู 3 แนวทางหลัก กำหนดอนาคต AI ไทยอย่างมั่นคงและมีความรับผิดชอบ
📌 นำเสนอ “พลังบวก“ ของการใช้งาน AI ด้านต่างๆ เช่น การขับเคลื่อนการเกษตร การแพทย์ และการศึกษา โดยต้องเข้าถึงทุกภาคส่วน ทั้งประเทศที่กำลังพัฒนา หรือชุมชนที่เปราะบาง
📌 เป็นเครื่องมือช่วยป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลหลอกลวง Deepfake การหลอกลวงทางโทรศัพท์หรือ Call center ผ่านการส่งเสริมการรู้เท่าทันดิจิทัล และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
📌 เน้น Human-Centric AI เสริมทักษะแรงงาน ไม่แย่งงานคน
.
นายกฯ ยังชูไทยเดินหน้าขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ชาติด้าน AI โดย “คณะกรรมการ AI แห่งชาติ” ด้วยเป้าหมายให้ AI เป็น“กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม” ส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ด้วยงบประมาณที่มีการจัดสรรแล้วกว่า 15.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตั้งเป้า สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท ภายในปี 2570
.
ด้าน Audrey Azoulay, Director-General of UNESCO สะท้อนวิสัยทัศน์ว่า AI ไม่ได้เปลี่ยนแค่ชีวิตประจำวัน แต่กำลังกระทบถึง นโยบาย สังคม และความเสมอภาค ความท้าทายใหญ่คือ “ช่องว่างระหว่างผู้ที่เข้าถึงกับผู้ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” ซึ่งกำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ
UNESCO จึงเร่งสร้าง “มาตรฐานจริยธรรม AI ระดับโลก” พร้อมจับมือทุกภาคส่วน รัฐ เอกชน วิชาการ และประชาสังคม เพื่อร่วมกันออกแบบอนาคต AI ที่ โปร่งใส รับผิดชอบ และปลอดภัย โดยใช้เครื่องมือสำคัญอย่าง “UNESCO RAM” ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกนำไปใช้จริง เพื่อผลักดัน AI ที่ปลอดภัยและยั่งยืนให้กับโลก
.
🌐 อีกหนึ่งไฮไลต์คือการเปิดตัว AI Governance Practice Center (AIGPC) หรือศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ระดับภูมิภาค แห่งแรกในระดับเอเซีย ที่จะช่วยเสริมบทบาทไทยในฐานะ “Regional Anchor” ที่ทั่วโลกจับตา
.
นอกจากนี้ ในงาน ยังมีการเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และตัวแทนจากนานาประเทศ ร่วมถกประเด็นจริยธรรม AI อย่างรับผิดชอบ ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งสังคม สิทธิมนุษยชน และเทคโนโลยี พร้อมกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้จากทุกภาคส่วน 🤝
.
📌 ติดตามโปรแกรมการประชุมได้ที่:
👉 https://www.globalforumethicsai.com/
.
อ่านข่าวเพิ่มเติมที่ https://www.etda.or.th/th/pr-news/open_global_forum.aspx
—————————
💥 Thailand Takes the Global Stage! Prime Minister of Thailand Paetongtarn Shinawatra unveils her bold vision to drive ethical AI for all, marking the grand opening of “The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025.” Thailand also pushes forward the launch of AIGPC – the first AI Governance Practice Center in Asia.
.
The international academic forum officially kicks off in Bangkok, with over 1,000 participants from 104 countries gathered at the Convention Centre, 22nd Floor, Centara Grand at CentralWorld.
.
Paetongtarn Shinawatra, Prime Minister of Thailand presided over the opening ceremony and delivered a visionary keynote, stating that AI is not merely about technology but a matter of “values, equality, and the future of humanity.”
She laid out three key principles shaping Thailand’s AI future with integrity and responsibility:
📌 Highlighting the positive power of AI to transform agriculture, healthcare, and education, with inclusive access for developing nations and vulnerable communities.
📌 A tool to combat misinformation, deepfakes, and call center scams through digital literacy and cross-sector collaboration.
📌 Emphasizing human-centric AI empowering, not replacing, the workforce by reskilling and upskilling citizens.
.
The Prime Minister also emphasized Thailand’s commitment to advancing its National AI Strategy under the National AI Committee, with the goal of positioning AI as a key driver of economic and social development. The government has allocated over USD 15.4 billion to invest in AI infrastructure, aiming to generate at least THB 4 billion in economic value by 2027.
.
🔍 On the global front, Audrey Azoulay, Director-General of UNESCO, emphasized that AI is not only transforming daily life but also reshaping policy, social structures, and equality.She warned of the growing gap between those who benefit from AI and those left behind, calling it a major global challenge.
.
UNESCO is therefore accelerating the creation of a global ethical standard for AI,working hand-in-hand with governments, academia, the private sector, and civil society to co-create an AI future that is transparent, accountable, and safe for all.
A key tool is the UNESCO RAM (UNESCO Readiness Assessment Methodology) currently the only global ethical AI framework available for real implementation by member states.
.
🌐 One of the major highlights was the launch of the AI Governance Practice Center (AIGPC) —the first regional center for AI governance in Asia, reinforcing Thailand’s growing leadership as a “Regional Anchor” for ethical AI.
.
The Forum also hosted expert panels, academic exchanges, and high-level dialogues with international representatives to explore responsible and ethical AI from multiple perspectives: society, human rights, and technology.🤝 Collaborative learning activities further enriched the dialogue among all sectors.
.
📌 Follow the conference program at: https://www.globalforumethicsai.com/
.
#GlobalForumEthicsAI25 #gfeai2025 #AIinMotion #AIEthics #EthicsOfAI #AIGovernanace #UNESCO #AIForum #MDES #DE #MHESI #mhesithailand #NECTEC #กระทรวงศึกษาธิการ #GlobalForum #ETDAThailand #ชีวิตดีเมื่อมีดิจิทัล

Loading

นายกฯ ‘แพทองธาร’ ชูไทยผู้นำจริยธรรม AI บนเวทีโลก! “The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ดัน AIGPC เป็นศูนย์ธรรมาภิบาล AI แห่งแรกในเอเซีย

นายกฯ ‘แพทองธาร’ ชูไทยผู้นำจริยธรรม AI บนเวทีโลก!
“The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025”
ดัน AIGPC เป็นศูนย์ธรรมาภิบาล AI แห่งแรกในเอเซีย

กรุงเทพฯ วันที่ 25 มิถุนายน 2568-นายกฯ ‘แพทองธาร’ นำประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุมระดับโลก ภายใต้ 3 กระทรวงหลัก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี), กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จับมือ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ “The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 24–27 มิถุนายน 2568 มีผู้เข้าร่วมกว่า 104 ประเทศ โดยไทยร่วมแสดงบทบาทผู้นำระดับภูมิภาคในการพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรม พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ว่า ประเทศไทยพร้อมเดินหน้าพัฒนา AI อย่างมีธรรมาภิบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกคนอย่างเท่าเทียม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

       นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติฯ โดยได้กล่าวถึงแนวทางสำคัญ 3 ประการในการกำหนดทิศทางอนาคตของ AI ในประเทศไทย ได้แก่ การส่งเสริมการใช้ AI เพื่อประโยชน์ของสังคม โดยเฉพาะในด้านเกษตรกรรม สาธารณสุข และการศึกษา การป้องกันการใช้ AI ในทางที่ผิด เช่น การสร้างข่าวปลอมหรือ Deepfake ที่บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือในสังคม การเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและการพัฒนา AI โดยยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อสนับสนุนแรงงาน ไม่ใช่แทนที่แรงงาน โดยรัฐจะร่วมมือกับภาคธุรกิจและสถาบันการศึกษาในการยกระดับทักษะแรงงานให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง

       รัฐบาลไทยยังเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ชาติด้าน AI ภายใต้การกำกับของ “คณะกรรมการ AI แห่งชาติ” โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้ AI เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และหลักจริยธรรมที่เข้มแข็ง รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจาก AI ได้ไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านบาทภายในปี 2570 พร้อมส่งเสริมให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เข้าถึงเทคโนโลยี AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มผลิตภาพ และยกระดับความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก พร้อมกันนี้ ประเทศไทยยังให้ความสำคัญกับการนำ AI ไปใช้ในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประชาชนโดยตรง โดยเฉพาะด้านการแพทย์ เกษตรกรรม และการศึกษา เพื่อให้เทคโนโลยีนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในทุกมิติอย่างแท้จริง

       นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีการหารือทวิภาคีกับ Ms. Audrey Azoulay (นางออเดรย์ อาซูเลย์) ผู้อำนวยการใหญ่ของยูเนสโก ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันในการตั้ง “ศูนย์ AI Governance Practice Center (AIGPC) หรือ ศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ระดับภูมิภาค” เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามข้อเสนอแนะว่าด้วยจริยธรรม AI โดยเฉพาะในบริบทของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ความร่วมมือนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของประเทศต่าง ๆ ในการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ ความร่วมมือนี้ยังจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของภูมิภาคในการรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่เกิดจากการใช้ AI ในทางที่ผิด โดยเฉพาะการนำ AI มาใช้เพื่อหลอกลวงประชาชน เช่น การปลอมเสียงและใบหน้าผ่านเทคโนโลยี Deepfake การส่งข้อความหลอกลวงผ่านระบบอัตโนมัติ และการสนับสนุนขบวนการหลอกลวงทางโทรศัพท์หรือ Call center ซึ่งล้วนเป็นภัยที่เกิดขึ้นจริงและแพร่กระจายรวดเร็วในหลายประเทศ ซึ่งการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วนนี้ เป็นการสะท้อนว่าประเทศไทยพร้อมเดินหน้าร่วมกับประชาคมโลกอย่างมั่นคง บนเส้นทางของการพัฒนา AI ที่มีจริยธรรม โปร่งใส และยั่งยืน

       นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ยืนยันว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรม ไม่ใช่เพียงแค่ในเชิงนโยบาย แต่เน้นการ “นำไปใช้จริง” โดยเฉพาะกับภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และการบริการที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง โดยไทยยังได้ประเมินความพร้อมด้าน AI ผ่านเครื่องมือ UNESCO RAM (UNESCO Readiness Assessment Methodology) เพื่อให้เข้าใจสถานะปัจจุบันของประเทศอย่างเป็นระบบ พร้อมระบุจุดแข็ง จุดอ่อน และแนวทางปรับปรุงในมิติต่าง ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน นโยบายข้อมูล และทักษะบุคลากร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมกับบริบทของไทย ทั้งนี้ นายประเสริฐกล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดตั้ง ศูนย์ AIGPC ภายใต้การดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) จะเป็นศูนย์กลางสำคัญในการฝึกอบรม สร้างองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติ และยกระดับบุคลากร AI ในระดับภูมิภาคต่อไป

       นอกจากนี้ ภายในงานยังได้รับเกียรติจากผู้นำหลากหลายประเทศ มาร่วมแชร์วิสัยทัศน์และมุมมองครอบคลุมทั้งด้านเทคโนโลยี นโยบาย และนวัตกรรม พร้อมด้วยกิจกรรมคู่ขนาน (Side Event) จากพาร์ทเนอร์ทั้งไทยและต่างประเทศที่ร่วมกันจัดขึ้น กับงาน “Bangkok AI Week 2025” ภายใต้แนวคิด “AI Powered Nation: Unleashing the Digital Economy for All” โดยมีกิจกรรมมากมายทั่วกรุงเทพฯ เช่น นิทรรศการเทคโนโลยี AI เวิร์กช็อปการใช้งานจริง เสวนาแลกเปลี่ยนแนวคิดจากนักวิจัยและสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ รวมถึงโชว์เคส AI จากบริษัทชั้นนำ ทั้งหมดนี้เพื่อให้ทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชนได้มีส่วนร่วมกำหนดอนาคตของ AI ที่ทุกคนได้ประโยชน์ไปด้วยกัน ผู้สนใจสามารถติดตามบทสรุปการประชุมนานาชาติ The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025 และความเคลื่อนไหวของ Bangkok AI Week 2025 ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand

Loading

Top