ผู้เขียน: Theenaphat Kenyota

        วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๗.๐๐ น. นายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และนายวรณัฐ คงเมือง ที่ปรึกษาด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เข้าร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลและพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ ทำเนียบรัฐบาล

กลุ่มงานบริหารงานสารบรรณและประชาสัมพันธ์
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

        เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๕ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างไทยและมาเลเซีย ครั้งที่ ๑ (JWC-SC) ร่วมกับ Datuk Haji Rodzi bin Md Saad เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติมาเลเซีย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย โดยการประชุมฯ ดังกล่าว เป็นความร่วมมือที่สืบเนื่องมาจากการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลมาเลเซีย ว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างไทยและมาเลเซีย ที่ได้ลงนามในห้วงเดือนมกราคม ๒๕๖๑ ณ กรุงเทพฯ

        ที่ประชุมได้หารือประเด็นการดำเนินความร่วมมือด้านความมั่นคงที่ผ่านมา และแนวทางในการดำเนินความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกันในอนาคต อาทิ การสานต่อความร่วมมือตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรี ทั้งสองฝ่ายได้เคยหารือร่วมกัน ความร่วมมือด้านการบริการจัดการชายแดน การบริหารสถานการณ์ในภาวะวิกฤต

กองความมั่นคงเกี่ยวกับภัยคุกคามข้ามชาติ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

       วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๕ ที่ประชุม ครม. ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแนวทางเสริมสร้างการอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายทางสังคม ตามที่ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ โดยแนวทางเสริมสร้างการอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายทางสังคม เป็นกรอบในการป้องกันและยับยั้งแนวคิดที่นิยมความรุนแรงทุกรูปแบบ อันมีเป้าหมายของแนวทางฯ คือ สังคมไทยอยู่ร่วมกันโดยเคารพความแตกต่าง ความหลากหลายและสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ ยึดถือหลักความอดทน อดกลั้นและยึดมั่นในแนวทางสายกลาง และเป็นสังคมที่ปลอดจากความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และจัดการความขัดแย้งโดยสันติวิธี ซึ่งสอดคคล้องกับเป้าหมายสำคัญในภาพรวมของยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๑ – ๒๕๘๐) คือ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข” และนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติคือ การอยู่ร่วมกันในชาติอย่างสันติสุข เป็นปึกแผ่นมั่นคงทางสังคม ท่ามกลางพหุสังคมและการมีเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

        ทั้งนี้ ในห้วงปี ๒๕๖๕ สมช. ดำเนินการโครงการสำคัญ (Flagship Project) โครงการ “การสร้างพื้นที่หลากหลายทางสังคมเพื่อการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่าง” เพื่อรองรับการขับเคลื่อนแนวทางเสริมสร้างการอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายทางสังคม ซึ่งการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ดังกล่าวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำคัญดังกล่าว เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงการใช้ความรุนแรงในสังคมและการเสริมสร้างค่านิยมไม่ใช้ความรุนแรงทั้งทางกายภาพและจิตภาพ อันจะนำไปสู่การป้องกันการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบและทุกระดับ

        ดังนั้น สำนักงานฯ จึงมุ่งหวังให้ส่วนราชการนำแนวทางฯ ดังกล่าวไปใช้เป็นกรอบการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และร่วมขับเคลื่อนกับภาคส่วนต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงและความขัดแย้งในสังคม อันจะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างหลากหลาย ส่งผลให้สังคมไทยเข้มแข็งมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และประเทศชาติมีความมั่นคงอย่างยั่งยืนต่อไป

        เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๕ คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ร่วมกับ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หน่วยงานและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้จัดการสัมมนาเรื่อง “การติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง : การแถลงสรุปผลสัมฤทธิ์การดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นความมั่นคง ห้วงปี พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕ ครั้งที่ ๒ และแนวคิดในการดำเนินการขับเคลื่อนฯ ในช่วงที่สอง (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐)” ณ ห้องประชุม Diamond Ballroom โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ (พล.อ.อู๊ด เบื้องบน ประธานที่ปรึกษากรรมาธิการการทหารฯ เป็นประธาน) โดย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมเป็นเกียรติในงาน และให้แนวคิดการขับเคลื่อนแนวคิดการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงในห้วงต่อไป โดย มี รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (นายรัชกรณ์ นภาพรพิพัฒน์) และที่ปรึกษาด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง (นายวรณัฐ คงเมือง) เข้าร่วมงานดังกล่าว โดย รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้มีการแถลงสรุปผลสัมฤทธิ์ฯ ในภาพรวม และการเตรียมพร้อมเข้าสู่การขับเคลื่อนในห้วงระยะต่อไป

        รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้แนวคิดการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงในห้วงต่อไป โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานดำเนินการโดยมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ที่นำไปสู่ความมั่นคงของประเทศ และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน รวมทั้งมุ่งหวังให้หน่วยงานต่าง ๆ ขับเคลื่อนภารกิจงานให้บรรลุเป้าหมายในภาพรวม โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีความเข้าใจแนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ด้านความมั่นคง และนำแผนแม่บทฯ ประเด็นความมั่นคง และนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ เป็นกรอบในการจัดทำแผนระดับที่ ๓ ไปสู่การจัดทำแผนงาน/โครงการ รวมทั้งให้มุ่งเน้นมุ่งเน้นการบูรณาการและการประสานการทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน การขับเคลื่อน ไปจนถึงการติดตามประเมินผล และให้ความสำคัญกับให้ความสำคัญการแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลเป้าหมาย เพื่อขยายแนวคิดการพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมความมั่นคงแห่งชาติ และแผนตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และมุ่งเน้นการจัดการปัญหาความมั่นคงที่สำคัญที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนให้ให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายการทำงานกับทุกภาคส่วน โดยทุกหน่วยงานต้องสร้างความเข้าใจและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน เพื่อให้ภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมเป็นพลังในการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายอย่างแท้จริง และยั่งยืน

กองนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

        วันศุกร์ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ พลเอก สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมด้วย
อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ร่วมพิธีทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครบรอบ ๖๓ ปี ณ ชั้น ๔ อาคารสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

กลุ่มงานบริหารงานสารบรรณและประชาสัมพันธ์
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

        สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นำโดย นายสิทธินันท์ มานิตกุล รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สมช. เข้าร่วมการหารือกับหน่วยงานความมั่นคงของเครือรัฐออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ ๔ – ๑๐ ก.ย. ๖๕ ณ นครซิดนีย์ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์ราแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรเลีย ดังนี้

        ๑) กระทรวงมหาดไทย (Department of Home Affairs) ซึ่งมีภารกิจในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติอาชญากรรมไซเบอร์ การโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ การขยายแนวความคิดสุดโต่ง (Extremism) รวมทั้ง การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ๒) กองกำลังป้องกันชายแดนออสเตรเลีย (Australian Border Force) ซึ่งมีภารกิจในการบริหารจัดการชายแดน ๓) ศูนย์ความมั่นคงไซเบอร์และโครงสร้างพื้นฐาน (Cyber and Infrastructure Security Centre) ในประเด็นความมั่นคงไซเบอร์และความมั่นคงโครงสร้างพื้นฐาน และ ๔) มหาวิทยาลัย Western Sydney University ในประเด็นความมั่นคงภาพรวม ความท้าทายใหม่ ตลอดจนประเด็นไซเบอร์และฐานข้อมูลขนาดใหญ่ในงานด้านความมั่นคง

กองความมั่นคงกิจการชายแดนและประเทศรอบบ้าน
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

        เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน 2565 เวลา 09.30 – 16.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้จัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่องแนวทางการขับเคลื่อนธรรมาภิบาลและการต่อต้านการทุจริตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการของบุคลากรภายใน สมช. ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการฯ และ ห้องประชุมศรีวิสารวาจาฯ โดยมี รอง ลมช. ฉัตรชัยฯ เป็นประธาน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ในการนำหลักธรรมาภิบาลมาประยุกต์ใช้และขับเคลื่อนการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบในการปฏิบัติราชการของบุคลากรภายใน สมช. ให้เกิดประสิทธิภาพ และเป็นไปตามเป้าหมายที่ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 – 2580) กำหนด

ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ