Accessibility Tools

Skip to main content
เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 น. - 16.30 น.
ขนาดตัวอักษร
สีตัวอักษร

ผู้เขียน: Theenaphat Kenyota

การชี้แจงนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๖๕ – ๒๕๖๗ ต่อวุฒิสภา

       เมื่อวันอังคารที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๖ ในคราวการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ ๒๔ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ณ ห้องประชุมวุฒิสภา อาคารรัฐสภา ชั้น ๒ ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร นายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้เข้าชี้แจงในวาระเรื่องที่เสนอใหม่ เรื่อง นโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๖๕ – ๒๕๖๗ (ตามมาตรา ๔ พระราชบัญญัติการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๓) ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ลงมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖

       นายฉัตรชัยฯ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติฯ ได้กล่าวว่า ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปัญหาที่รัฐบาลทุกยุคสมัยให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมา พระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้กำหนดให้ สมช. จัดทำนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นกรอบทิศทางหลักในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม ๕ จังหวัด โดยครอบคลุมทั้งมิติด้านความมั่นคงและด้านการพัฒนา บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อเสนอต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบ จากนั้นให้นำเสนอรัฐสภาเพื่อทราบ

       นโยบายฯ ได้จัดทำขึ้น เพื่อคลี่คลายเงื่อนไขของปัญหา โดยกำหนดเป้าหมายในการยุติเหตุรุนแรงอย่างสมบูรณ์ภายในปี พ.ศ. ๒๕๗๐ ควบคู่กับการลดเงื่อนไขของปัญหา โดยยังคงยึดมั่นและรักษาแนวทางการดำเนินการที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง เน้นแก้ไขปัญหาตามแนวทางสันติวิธี และหลักสิทธิมนุษยชน การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และการบริหารจัดการบนพื้นฐานของสังคมพหุวัฒนธรรม ตลอดจน การให้ความสำคัญกับการบูรณาการการขับเคลื่อนงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพและประสานสอดคล้อง โดยได้กำหนดวิสัยทัศน์ว่า “จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัย และมีสันติสุข บนพื้นฐานของสังคมพหุวัฒนธรรมและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน” ซึ่งการบรรลุผลตามเป้าหมายและวิสัยทัศน์ข้างต้นนั้น ได้กำหนดวัตถุประสงค์ รวม ๖ ข้อ และแนวนโยบายรองรับ ๒๗ ประเด็น รวมทั้งกำหนดกลไก ทั้งในระดับนโยบาย ระดับการแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ และระดับการปฏิบัติในพื้นที่

       เมื่อผ่านการรับทราบของรัฐสภาแล้ว จะได้มีการชี้แจงให้กับหน่วยงานของรัฐ เพื่อใช้นโยบายฉบับนี้ไปสู่การขับเคลื่อนงานตามแนวทางดังกล่าวอย่างเป็นทางการ โดยจะนำสู่การจัดทำยุทธศาสตร์จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี โครงการ กิจกรรม และงบประมาณของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง รวมทั้ง ผลักดันการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ และการประสานกับภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายอย่างเหมาะสมต่อไป

       ที่ประชุมวุฒิสภา ได้รับทราบนโยบายฯ โดยคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา พร้อมทั้ง พลเอก อักษรา เกิดผล นายถวิล เปลี่ยนศรี และพลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร สมาชิกวุฒิสภา ได้ให้ความเห็นในภาพรวมว่า นโยบายฯ มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ และนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้ง มีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ ในระยะต่อไป ควรมีการถ่ายทอดนโยบายฯ ไปสู่การปฏิบัติที่ชัดเจนและประสานสอดคล้องอย่างบูรณาการร่วมกัน โดยควรมีการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์และแนวนโยบายของรัฐให้มีความเข้าใจตรงกัน พร้อมทั้ง ควรให้ความสำคัญกับเงื่อนไขและมิติที่เชื่อมโยงกับปัญหา อาทิ การศึกษา ความยากจนและเศรษฐกิจ กระบวนการพูดคุยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ

กองความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้และชนต่างวัฒนธรรม
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

การเข้าพบและหารือความร่วมมือทางด้านวิชาการร่วมกับผู้แทนคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC)

       เมื่อวันพุธที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๓.๓๐ – ๑๕.๓๐ น. นายฮวน-เปโดร แซเรอร์ (Mr. Juan Pedro Schaerer) ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาค คณะกรรมการกาชาดสากลระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross: ICRC) และคณะได้ประชุมร่วมกับนายรัชกรณ์ นภาพรพิพัฒน์ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ณ ห้องประชุมประสงค์ สุ่นสิริ ตึก ๒๐ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมีรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันความมั่นคงศึกษา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมด้วยการประชุมร่วมกับ ICRC มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาความร่วมมือทางด้านวิชาการด้านความมั่นคงร่วมกันระหว่าง สมศ. และ ICRC และเพื่อส่งเสริมบทบาทการทำงานด้านวิชาการในประเด็นด้านมนุษยธรรมและการบริหารจัดการความขัดแย้งท่ามกลางบริบทความมั่นคงรูปแบบใหม่ในระยะต่อไป

สถาบันความมั่นคงศึกษา
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

การเข้าเยี่ยมคารวะของเอกอัครราชทูตโรเบิร์ต เอฟ โกเดค

       เมื่อวันพุธที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๖ เอกอัครราชทูตโรเบิร์ต เอฟ โกเดค (Mr. Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และคณะ ได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับ นายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ/รักษาราชการแทนเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยได้มีการหารือกันในประเด็นความร่วมมือระหว่าง สมช. กับสหรัฐฯ ในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการดูแลผู้โยกย้ายถิ่นฐานในไทย ซึ่งเป็นการดำเนินการร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังคงเห็นพ้องถึงความสำคัญในการช่วยเหลือผู้โยกย้ายถิ่นฐาน ผู้อพยพ และผู้หนีภัยการสู้รบในไทยต่อไป เพื่อให้เป็นไปตามหลักการห้ามผลักดันกลับไปสู่อันตราย (non-refoulement) และหลักกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ อันเป็นแนวทางดำเนินการหลักของไทย

       On Wednesday 18th October 2023, Ambassador Robert F. Godec paid a courtesy call on Mr. Chatchai Bangchuad Deputy Secretary – General/Acting Secretary – General of the National Security Council. The discussion focussed on the ongoing cooperation between Thailand and the United States of America on humanitarian assistance and protection of displaced persons and mixed movement of migration in Thailand. Both countries emphasised the importance of continuing supports to migrants and vulnerable groups and ensured to resume the flow of aids as following the international human rights and non-refoulement principles which are the main policy for Thailand.

กองความมั่นคงภายในประเทศ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

บทความเกี่ยวกับสรุปย่อคำวินิจฉัยฯ ประจำเดือนกันยายน ๒๕๖๖

          บทความเกี่ยวกับสรุปย่อคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร และประเด็นข้อหารือ เพื่อเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540

สามารถดูบทความย้อนหลังได้ที่..

บทความเกี่ยวกับสรุปย่อคำวินิจฉัย
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร

Loading

การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (กชภ.) ไทย – มาเลเซีย ครั้งที่ ๑๑๓

       คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (กชภ.) ไทย – มาเลเซีย ครั้งที่ ๑๑๓ ได้จัดการประชุมในระหว่างวันที่ ๑๕ – ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ โรงแรมป่าตองรีสอร์ท อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยมีพลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ ๔/ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ฝ่ายไทย และพลโทดาโต๊ะ เต็งกู มูฮัมหมัด เฟาซี บิน เต็งกู อิบราฮิม ผู้บัญชาการกองกำลังกองทัพบก สนามภาคตะวันตกมาเลเซีย/ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ฝ่ายมาเลเซีย เป็นประธานร่วม ในการนี้ นางสาวอัญชลี ดวงแก้ว ผู้อำนวยการกองความมั่นคงกิจการชายแดนและประเทศรอบบ้าน สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (ไทย) เข้าร่วมในฐานะประธานคณะทำงานด้านการจัดการชายแดนทางบก (Border Management Working Group: BMWG

       ที่ประชุมได้รับทราบ ๑) ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการถมหินในแม่น้ำโก-ลก ๒) ความคืบหน้าการเพิ่มความเข้มงวดในการกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาการลักลอบค้ายาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมายตามแนวชายแดนไทย – มาเลเซีย ๓) ข้อเสนอให้มีกลไกในระดับพื้นที่ตามแนวชายแดน ๔) ข้อเสนอให้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศผ่านความร่วมมือสามเหลี่ยมการท่องเที่ยว (เบตง อิโปห์ ปีนัง) ๖) ผลการดำเนินงานตามกรอบความร่วมมือชายแดนไทย – มาเลเซีย ภายใต้ กชภ. ครั้งที่ ๑๑๒ และการดำเนินงานของคณะทำงาน

กองความมั่นคงกิจการชายแดนและประเทศรอบบ้าน
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

ประกาศ รายละเอียดวัน เวลา และสถานที่ สำหรับการสอบสัมภาษณ์เพื่อวัดความเหมาะสม พนักงานจ้างเหมาบริการ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน กองนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

        ประกาศ รายละเอียดวัน เวลา และสถานที่ สำหรับการสอบสัมภาษณ์เพื่อวัดความเหมาะสม พนักงานจ้างเหมาบริการ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน กองนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมีรายละเอียดประกาศรับสมัครตามไฟล์แนบ

Loading

การประชุมคณะที่ปรึกษาของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 8/2566

       เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๐๐ น. สถาบันความมั่นคงศึกษา สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้จัดการประชุมคณะที่ปรึกษาของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ ๘/๒๕๖๖ โดยมี นายประกิจ ประจนปัจจนึก ประธานที่ปรึกษาของสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธาน ที่ประชุมได้ร่วมรับทราบยุทธศาสตร์ความมั่นคงเชิงบูรณาการของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และติดตามสถานการณ์ความมั่นคงทั้งภายในและระหว่างประเทศที่กระทบต่อความมั่นคงของไทย อาทิ สถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย – ยูเครน ทะเลจีนใต้ และผลการประชุม Moscow Conference on International Security ครั้งที่ ๑๑

       นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้ร่วมพิจารณาผลการศึกษา เรื่อง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศมหาอำนาจในมิติทางทะเล ซึ่งดำเนินการศึกษาโดย ศาสตราจารย์เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ ที่ปรึกษาของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ด้านเศรษฐกิจและสังคมจิตวิทยา มุ่งเน้นการศึกษาแนวคิดเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) และสมุทรภิบาล (Ocean Governance) เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์และอิทธิพลของประเทศมหาอำนาจในมิติทางทะเล ผ่านโครงการ Build Back Better World (B3W) และกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF) ตลอดจนร่วมติดตามสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวทางการเมืองของเยาวชน เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่ในการแสดงความคิดเห็น ส่งเสริมและพัฒนาระบบการศึกษา สร้างบรรยากาศของความไว้วางใจซึ่งกันและกันภายใต้สังคมที่มีความแตกต่างหลากหลายทางศาสนาวัฒนธรรม และร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐในการแก้ไขปัญหาพื้นที่

สถาบันความมั่นคงศึกษา
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

การฝึกผสม “BLUE STRIKE 2023” กับความมั่นคงทางทะเลของไทย [MarSecFocus, ฉบับที่ 13/2566]

การฝึกผสม “BLUE STRIKE 2023” กับความมั่นคงทางทะเลของไทย

การฝึกผสม BLUE STRIKE 2023 ระหว่างกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงเดือนกันยายน 2566 ซึ่งถือว่าเป็นกรอบความร่วมมือในระดับทวิภาคี ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพเรือไทยในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และการบริหารจัดการภัยคุกคามความมั่นคงทางทะเล ทั้งทะเลที่อยู่ในเขตอำนาจอธิปไตย ภูมิภาคอาเซียน และภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ให้เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ

 

 

ติดตามฉบับอื่นได้ที่..

Loading

การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อประเมินสถานการณ์ความมั่นคงในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในภาพรวม ณ จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่

       สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อประเมินสถาณการณ์ความมั่นคงในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในภาพรวม ณ จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ ๘ – ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๖ โดยมี นางสาวอัญชลี ดวงแก้ว ผอ.กชป. เป็นประธาน

       ทั้งนี้ สมช. ได้ตระหนักถึงความสำคัญของพื้นที่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ในฐานะเป็นศูนย์กลางของอาเซียนและมีที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สามารถเชื่อมโยงไปยังภูมิภาคอื่น ๆ อีกทั้ง ยังมีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจและความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ส่งผลให้หลายประเทศเข้ามาพัฒนากรอบความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคฯ ซึ่งมีความสำคัญต่อไทย เนื่องจากมีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งการประชุมประเมินสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นการติดตามและรับฟังข้อคิดเห็นของหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และนำไปสู่การประเมินสถานการณ์ในการดำเนินงานด้านความมั่นคงของไทยต่อไป

       นอกจากนี้ สมช. ได้ตรวจสอบสภาพพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำและตรวจสอบเส้นทางการลาดตระเวนตามแม่น้ำโขง พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขงส่วนหน้า (ศปปข.สน.) อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง (ศปปข.) อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์โดย สมช. และการบริหารจัดการโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๕ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ รวมถึง การประชุมประเมินสถานการณ์ร่วมกับตำรวจภูธรภาค ๕ ณ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ๕ จ.เชียงใหม่ เพื่อรับทราบความคืบหน้าผลการดำเนินงานของ ศปปข. ดังกล่าวอีกด้วย

กองความมั่นคงกิจการชายแดนและประเทศรอบบ้าน
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

การฝึกการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี ๒๕๖๖ (C – MEX 23) ในประเด็นการฝึกการต่อต้านการก่อการร้าย ประจำปี ๒๕๖๖

       เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๖ นายธนิน เกตุทอง ผู้อำนวยการกองความมั่นคงด้านการเตรียมพร้อมและการป้องกันประเทศเป็นผู้แทน สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้เข้าร่วมตรวจเยี่ยมการฝึกภาคสนาม (FTX) ในประเด็นการฝึกการต่อต้านการก่อการร้าย ภายใต้กรอบการฝึกการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี ๒๕๖๖ (C – MEX 23) จัดโดยศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล (ศตก.) ในรูปแบบการฝึกภาคสนาม (FTX) ซึ่ง ศตก. ได้กำหนดสถานการณ์การฝึกที่มุ่งเน้นประเด็นการก่อการร้ายด้วยอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (WMD) การก่อการร้ายด้วยอากาศยานไร้คนขับ (Drone) การกราดยิง และการจับตัวประกัน โดยการฝึกมีวัตถุประสงค์ เพื่อทดสอบความพร้อมของหน่วยงาน รวมถึงการทดสอบ นโยบาย แผน กลไกและกฎหมายที่เกี่ยวข้องและทดสอบการปฏิบัติงานและการประสานงานของหน่วยที่เกี่ยวข้องในการเผชิญเหตุและการตอบโต้สถานการณ์วิกฤตด้านการก่อการร้าย ตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหา ในแต่ละระดับ ได้แก่ ขั้นการป้องกัน (Prevention) การตอบโต้ (Countering) และการฟื้นฟู (Resilience) รวมถึงเพื่อทดสอบระบบการควบคุมบังคับบัญชาและการติดต่อสื่อสาร ให้เกิดความพร้อมตามแผนเผชิญเหตุในการแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายของประเทศ และพัฒนามาตรฐานการปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพ และเพื่อให้ทราบปัญหาข้อขัดข้อง ข้อเสนอแนะในการฝึกแก้ไขปัญหาการก่อการร้าย ภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐ แผนเตรียมพร้อมแห่งชาติและแผนบริหารวิกฤตการณ์ พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐ และแผนปฏิบัติการด้านการต่อต้านการก่อการร้าย พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐

กองความมั่นคงด้านการเตรียมพร้อมและการป้องกันประเทศ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

ประกาศรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดตามมาตรา ๖ แห่ง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามประกาศสำนักงาน ปปง. ที่ ๗/๒๕๖๖

       สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้ประกาศรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดตามมาตรา ๖ แห่ง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามประกาศสำนักงาน ปปง. ที่ ๗/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๖ โดยตรวจสอบข้อมูลรายชื่อทั้งหมดได้ที่ https://www.amlo.go.th/dpl

กองความมั่นคงเกี่ยวกับภัยคุกคามข้ามชาติ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

ประกาศรับสมัครงาน พนักงานจ้างเหมาบริการ ในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ จำนวน ๑ อัตรา

        ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีความประสงค์เปิดรับสมัครบุคคลทั่วไปเพื่อจัดจ้างเป็นพนักงานจ้างเหมาบริการ ในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ จำนวน ๑ อัตรา โดยมีรายละเอียดประกาศรับสมัครตามไฟล์แนบ

Loading

Top