Accessibility Tools

Skip to main content
เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 น. - 16.30 น.
ขนาดตัวอักษร
สีตัวอักษร

ผู้เขียน: Theenaphat Kenyota

พิธีบำเพ็ญกุศล ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง ครั้งที่ ๒

        วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๖.๐๐ น. นายภพหล้า ปิยะปานันท์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เข้าร่วมพิธีบำเพ็ญกุศล ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยพร้อมเพรียงกัน ในการนี้ มีการแสดงพระธรรมเทศนา โดยสมเด็จพระพุทธพจนวชิรมุนี เจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร พร้อมพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ รวมจำนวน ๑๐ รูป ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล

กลุ่มงานบริหารงานสารบรรณและประชาสัมพันธ์
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรณีสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา

        วันนี้ (8 ธ.ค. 68) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้จัดการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อรับทราบสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา รวมทั้งพิจารณามาตรการและแนวทางการดำเนินการทุกมิติของฝ่ายไทยอันเนื่องมาจากปัญหาดังกล่าว

        ที่ประชุมฯ เห็นพ้องให้สามารถปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณี ตามเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้มีการปฏิบัติการทางทหารในเรื่องอื่น ๆ ที่มีความจำเป็น เพื่อปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และสิทธิในการป้องกันตนเองโดยชอบธรรม

        ทั้งนี้ สมช. ในฐานะหน่วยงานหลักในการบูรณาการภารกิจระดับนโยบายด้านความมั่นคงแห่งชาติ จะร่วมยืนหยัดในการปกป้องอธิปไตยและรักษาความมั่นคงของชาติอย่างเต็มความสามารถ

        The National Security Council Meeting on the Situation along the Thailand – Cambodia Border

        Today (8 December 2025), the Office of the National Security Council (ONSC) convened a National Security Council meeting, chaired by H.E. Mr. Anutin Charnvirakul, the Prime Minister, to receive an update on the situation along the Thailand –Cambodia border and to consider all measures available to Thailand in response to the situation.

        The meeting agreed that all forms of military operations are permitted in response to the ongoing situation. Other necessary military actions are also permitted to protect Thailand’s sovereignty and territorial integrity, in line with the right to self-defense and international law.

        The ONSC, as the principal coordinating agency for national security policy implementation, will stand together with all relevant agencies to uphold Thailand’s sovereignty and protect the nation’s security to the best of its ability.

กองความมั่นคงภายในประเทศ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

แถลงการณ์ต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

        พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2568 จนถึงขณะนี้ ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่รัฐบาลติดตามอย่างใกล้ชิดในทุกระยะ และได้สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคง บูรณาการการทำงานอย่างเต็มสรรพกำลัง เพื่อดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และปกป้องอธิปไตยของชาติไทยอย่างเคร่งครัด

        รัฐบาลขอยืนยันว่า ประเทศไทยจะดำรงความมุ่งมั่นสูงสุดในการปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และสิทธิในการป้องกันตนเองโดยชอบธรรม และในวันนี้ ได้มีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมีมติยืนยันว่า รัฐบาลจะดำเนินการตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ คือ จะมีปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณี ตามเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้มีการปฏิบัติการทางทหารในเรื่องอื่น ๆ ที่มีความจำเป็น

        รัฐบาลมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยม ในความสามารถของกองทัพไทย ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบตามกฎการใช้กำลัง และยึดหลักมนุษยธรรมในการปกป้องพี่น้องประชาชน และรักษาความสงบเรียบร้อย ตลอดแนวพื้นที่ชายแดน

พร้อมกันนี้ รัฐบาลขอส่งกำลังใจ และความห่วงใยไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่ต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งรัฐบาลได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งด้านความเป็นอยู่และความปลอดภัย ที่พักพิง อาหาร น้ำดื่ม การบริการทางการแพทย์ และสวัสดิการที่จำเป็น อย่างเต็มความสามารถ

        เพื่อความถูกต้องของข้อมูลที่พี่น้องประชาชนจะได้รับ และเพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนเกิดความตื่นตระหนก รัฐบาลขอวิงวอนให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารจากช่องทางของราชการเท่านั้น และมอบหมายให้กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้สื่อสารข้อมูลหลักในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้

        รัฐบาลจะบูรณาการข้อมูลร่วมกับทุกเหล่าทัพ และหน่วยงานความมั่นคงทุกระดับ เพื่อให้ข้อมูลที่ออกสู่สาธารณะไปยังพี่น้องประชาชน มีความถูกต้อง ชัดเจน และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

        รัฐบาลขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า การปกป้องประเทศชาติ และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน คือ ภารกิจสูงสุดของรัฐบาลและกองทัพไทย

        ประเทศไทยไม่เคยต้องการเห็นความรุนแรง โดยยืนยันว่าประเทศไทยไม่เคยเป็นฝ่ายริเริ่ม หรือรุกรานแต่อย่างใด แต่ประเทศไทยจะไม่ยอมให้มีการล่วงละเมิดอธิปไตย และจะดำเนินการอย่างมีเหตุมีผล รอบคอบ ยึดหลักสันติภาพ ความมั่นคง และมนุษยธรรม เป็นสำคัญ

        รัฐบาลจะรายงานสถานการณ์ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง และพร้อมดำเนินการทุกมาตรการที่จำเป็น เพื่อรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของประเทศ อธิปไตย บูรณภาพ และดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด

        ท้ายที่สุดนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาล และในศักยภาพของกองทัพไทย และร่วมกันให้กำลังใจ และสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารในครั้งนี้โดยทั่วกัน

กองความมั่นคงภายในประเทศ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

การสรุปผลการปฏิบัติงานประจำปี 2568 และรับมอบนโยบายขับเคลื่อนการทำงานด้านความมั่นคง ปี 2569 จากนายกรัฐมนตรี/ผอ.รมน.

        เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เข้าร่วมงานสรุปผลการปฏิบัติงานประจำปี 2568 และการแถลงแผนการปฏิบัติงานประจำปี 2569 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) เป็นประธาน พร้อมมอบนโยบายสำคัญเพื่อเป็นกรอบในการขับเคลื่อนงานด้านความมั่นคงของประเทศในปีงบประมาณ 2569

        นายกรัฐมนตรี/ผอ.รมน. เน้นย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ควบคู่กับการรับมือภัยคุกคามทุกรูปแบบ โดยมุ่งสู่ “ความมั่นคงที่ยั่งยืน ทันสมัย และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ผ่านการทำงานเชิงรุก การแก้ปัญหาที่ต้นตอ และการบูรณาการทุกภาคส่วนให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม

ภายในงาน ได้มีการมอบนโยบายสำคัญแก่ทุกหน่วยงาน ดังนี้

1. การป้องกันภัยคุกคามเร่งด่วน

เน้นการยับยั้งภัยคุกคามที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ทั้งปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดน อาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การก่อการร้าย รวมถึงปัญหาหนี้นอกระบบ พร้อมผลักดันการทำงานเชิงลึกในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือของประชาชนเพื่อลดเหตุรุนแรงและจุดเสี่ยงให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ได้เน้นการพัฒนาศักยภาพด้านข่าวกรองให้ “รู้จริง รู้เร็ว แม่นยำ” และเพิ่มมาตรการสกัดกั้นข่าวปลอม (Fake News) เพื่อป้องกันความแตกแยกในสังคม

2. การสนับสนุนงานรัฐบาลและการดูแลประชาชน

มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาความมั่นคงเชิงพื้นที่ เช่น ปัญหาที่ดินทำกิน การค้ามนุษย์ และสถานะบุคคลของคนไร้รัฐ–ไร้สัญชาติ พร้อมสนับสนุนการดำเนินงาน “ตำบล มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ให้เกิดผลลัพธ์ในพื้นที่
นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ กอ.รมน. ดำเนินงานเชิงรุกในการจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและสาธารณภัย เช่น PM 2.5 ไฟป่า การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ปัญหากากสารเคมี และการปนเปื้อนในแหล่งน้ำ รวมถึงการตอบสนองต่อเหตุการณ์ไม่ปกติที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงโดยรวมของประเทศ

3. การปรับปรุงองค์กรและเสริมภาพลักษณ์ที่ทันสมัย โปร่งใส และเป็นที่พึ่งของประชาชน

เน้นการเสริมศักยภาพบุคลากรให้เท่าทันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ทั้งด้านเทคโนโลยี ข่าวสาร และทักษะปฏิบัติงานในพื้นที่ พร้อมสร้างความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ การปฏิบัติงาน และการสื่อสารสาธารณะ เพื่อให้ทุกภารกิจสามารถตรวจสอบได้

        ในโอกาสนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานและความร่วมมือระหว่าง สมช. และ กอ.รมน. โดยเฉพาะประเด็นสำคัญในการขับเคลื่อน นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2566–2570) อาทิ การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การบริหารจัดการผู้หลบหนีเข้าเมือง และการเสริมสร้างความมั่นคงเชิงพื้นที่ในมิติต่าง ๆ

        สมช. ยืนยันความพร้อมในการสนับสนุนนโยบายของนายกรัฐมนตรี/ผอ.รมน. และร่วมทำงานกับ กอ.รมน. อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติเกิดผลสัมฤทธิ์ที่ประชาชนเห็นและสัมผัสได้จริง นำพาประเทศไทยก้าวสู่ความมั่นคงที่ยั่งยืนต่อไป

กองความมั่นคงภายในประเทศ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

การเข้าร่วมประชุมหารือเพื่อการพิจารณาการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับงานประชาสัมพันธ์เพื่อความมั่นคง

        เมื่อวันที่ 17 – 20 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นำโดย นายภพหล้า ปิยะปานันท์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง/หัวหน้าคณะทำงานประชาสัมพันธ์เพื่อความมั่นคงของ สมช. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สมช. เดินหน้าศึกษาแนวทางการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพัฒนาสื่อการเรียนการสอน รองรับการยกระดับคุณภาพการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยจัดประชุมและศึกษาดูงานร่วมกับนายนิกร เซ้งเถียร ผู้อำนวยการศูนย์ขับเคลื่อนการศึกษาในจังหวัดชายแดนใต้ ผู้แทนหน่วยงานด้านการศึกษา และหน่วยงานด้านการประชาสัมพันธ์ ณ จังหวัดปัตตานี

        โดยศึกษาการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนด้วย AI ณ โรงเรียนบ้านต้นทุเรียนและโรงเรียนบ้านดอนรัก ซึ่งเป็นตัวอย่างโรงเรียนที่ได้นำ AI มาประยุกต์ใช้จัดทำสื่อการเรียนสำหรับพัฒนาทักษะภาษาเพื่อการสื่อสารให้แก่เด็กอายุ 4 – 7 ปี เพื่อให้เด็กเหล่านี้สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ และอยู่ร่วมในสังคมพหุวัฒนธรรมได้อย่างสันติสุข นอกจากนี้ ยังได้รับฟังผลการนำ AI มาใช้จัดทำสื่อการเรียนสำหรับพัฒนาทักษะทางภาษาจากผู้แทนโรงเรียนอื่น ๆ ได้แก่ โรงเรียนบ้านนาประดู่ โรงเรียนบ้านห้วยบอน โรงเรียนบ้านคาโต และโรงเรียนจิปิภพพิทยา

        การศึกษาพื้นที่และการประชุมหารือในครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การประชุมเชิงวิชาการ แต่คือช่วงเวลาที่หน่วยงานด้านการศึกษาและหน่วยงานด้านการประชาสัมพันธ์ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้ AI ท่ามกลางบริบทพหุวัฒนธรรมของพื้นที่ชายแดนใต้ ที่ทุกคนร่วมกันมองเห็นพลังของเทคโนโลยี ในการนำมาส่งเสริมการเผยแพร่อัตลักษณ์ของชุมชนในพื้นที่ผ่านสื่อการสอน การสร้างสื่อภาพที่เข้าถึงผู้เรียนหลากหลายกลุ่ม การพัฒนาบทเรียนดิจิทัลที่ตอบโจทย์เด็กยุคใหม่ ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลในการออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ของเด็ก ๆ ในพื้นที่ กิจกรรมนี้จึงกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ของความคิด ที่จะถูกนำไปต่อยอดเป็นแนวทางพัฒนาการศึกษาให้เติบโตอย่างแข็งแรงในอนาคต

        ทั้งนี้ สามารถอ่านข่าวประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ ดังนี้
1) NBT CONNEXT – สมช. ลงพื้นที่ปัตตานี ศึกษาโมเดลใช้ AI พัฒนาสื่อการเรียนรู้ ขับเคลื่อนการศึกษาในจังหวัดชายแดนใต้
2) สมช. ลงพื้นที่ปัตตานี ศึกษาโมเดลใช้… – ศึกษาธิการส่วนหน้า | Facebook
3) สมช. ประชุมส่วนราชการ ศึกษาแนวทางใช้… – ศึกษาธิการส่วนหน้า | Facebook
4) ศูนย์ขับเคลื่อนการศึกษาในจังห… – สนง.ประชาสัมพันธ์ จ.ปัตตานี | Facebook

กองความมั่นคงภายในประเทศ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

การเข้าร่วมประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๐

        ท่านเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (นายฉัตรชัย บางชวด) ได้เข้าร่วมการรับมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๐ โดยท่านนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกุล) ได้กรุณาให้เกียรติมอบนโยบายการจัดทำข้อเสนอคำของบประมาณต่อหน่วยรับงบประมาณ ภายใต้กรอบวงเงินรวม ๓.๗๗๘ ล้านล้านบาท โดยเน้นย้ำให้หน่วยรับงบประมาณควรเสนอคำของบประมาณเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ไม่เกินร้อยละ ๒๐ ตามแนวทางลดรายจ่ายประจำ เพิ่มรายจ่ายลงทุน รวมทั้งพิจารณาแหล่งงบประมาณจากแหล่งอื่นเพื่อลดภาระงบประมาณภาครัฐ
        ในส่วนนโยบายรายประเด็น ขอให้หน่วยรับงบประมาณให้ความสำคัญกับนโยบายรัฐบาล ที่มุ่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ส่งเสริมการเติบโตและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ ฟื้นฟูการคลังของประเทศ และปรับเปลี่ยนการทำงานของภาครัฐ ตามที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๐ โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น การท่องเที่ยว การรับมือต่อสงครามการค้า เน้นอุตสาหกรรมดิจิทัล พลังงานสะอาด และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
        ด้านความมั่นคง รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อแนวทางสันติวิธีในการแก้ไขข้อพิพาทกับประเทศรอบบ้าน การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การดำเนินนโยบายต่างประเทศเชิงรุก รวมถึงนโยบายด้านสังคมที่จะเน้นน้ำหนักไปที่การพัฒนาเครือข่ายการแจ้งเตือนภัยพิบัติ และการแก้ไขปัญหาจากสแกมเมอร์ ซึ่งภารกิจความมั่นคงเหล่านี้ สมช. ได้มีบทบาท และหน้าที่เชิงนโยบายต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) ไว้ด้วย
        นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ (นายอนันต์ แก้วกำเนิด) ได้ชี้แจงแนวทางการจัดทำงบประมาณ โดยให้ความสำคัญกับหลักการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า (Value for Money) ทั้งความประหยัด มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ การมุ่งประโยชน์ต่อประชาชน โดยให้พิจารณาความสำคัญของกิจกรรม หากกิจกรรมใดหมดความสำคัญแล้ว ให้ปรับลดหรือยกเลิก ส่วนกิจกรรมที่มีความสำคัญและต้องตั้งคำของบประมาณ ให้พิจารณาจากความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ ที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ รวมทั้งนโยบายสำคัญ (ด้านความมั่นคงมุ่งต่อเป้าหมายของนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ) รวมทั้ง เน้นการดำเนินงานในเชิงพื้นที่ (Area base) และเชิงประเด็น (Agenda base)
        ทั้งนี้ ตามปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๐ กำหนดให้หน่วยรับงบประมาณจัดทำคำของบประมาณเสนอสำนักงบประมาณ ภายในวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๘ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้นำข้อเสนอไปพิจารณาและเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างรายละเอียดงบประมาณต่อไป
        ในการนี้ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้กำชับให้กอง/กลุ่มงานภายใน สมช. รับนโยบายและแนวทางดังกล่าวไปเตรียมการตั้งคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๐ อย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้กิจกรรม/โครงการ และภารกิจที่จะดำเนินการ ภายใต้งบประมาณที่เสนอขอนั้น ได้มุ่งต่อการรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชนอย่างถึงที่สุดต่อไป

กลุ่มงานพัฒนาแผนปฏิบัติราชการภายในองค์กร
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

สมช. หารือร่วม สงป. จัดทำคำของบประมาณ ปี 70 หวังตอบโจทย์รัฐบาล และผลประโยชน์ชาติเป็นสำคัญ

        เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้รับเกียรติจากคณะผู้แทนสำนักงบประมาณ นำโดยนางสาวรัชนิภา สายอุบล ผู้อำนวยการกองจัดทำงบประมาณด้านการบริหาร และเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าหารือร่วมกันในประเด็นการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 ของ สมช.

        คณะของ สมช. โดยนายรัชกรณ์ นภาพรพิพัฒน์ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมด้วย นายภพหล้า ปิยะปานันท์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง นายภาณุทัต ภูริปัญญวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเลขาธิการ นายสินชัย คารวุตม์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านป้องปรามการก่อการร้าย/ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเจ้าหน้าที่จากกอง/กลุ่มงานต่างๆ ได้นำเสนอแนวทางการจัดทำคำของบประมาณของ สมช. ซึ่งให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนนโยบายด้านความมั่นคง ผ่านการประเมินสถานการณ์ แจ้งเตือนภัยคุกคาม และกำหนดนโยบายในการแก้ปัญหาความมั่นคงด้านต่างๆ ที่สอดคล้องกับเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทด้านความมั่นคง ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ ตลอดจนนโยบายรัฐบาล และการขับเคลื่อนให้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2566-2570) ที่ สมช. รับผิดชอบหลัก สามารถแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติของหน่วยงานต่างๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ และประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

        ทั้งนี้ ทิศทางการจัดทำคำของบประมาณเพื่อดำเนินงานเชิงยุทธศาสตร์ของ สมช. จะยังคงให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคง ที่ระบุไว้ภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ และยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ความมั่นคงที่คาดว่าจะเกิดและจะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติอย่างสูง อาทิ การปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติและการพัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติพื้นที่ชายแดน การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และการบริหารจัดการผู้หลบหนีเข้าเมืองและโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ เป็นต้น

        นอกจากนี้ ยังได้คำนึงถึง การเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนงานวิชาการความมั่นคงในลักษณะ Track 1.5 โดยสถาบันความมั่นคงศึกษา เพื่อพัฒนาความร่วมมือในแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านความมั่นคงร่วมกับองค์กรวิชาการทั้งภายในและระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและบริหารจัดการองค์ความรู้ที่ได้รับนำมาใช้ในการบูรณาการการแก้ไขปัญหาความมั่นคงร่วมกันในทุกภาคส่วนอย่างเข้มแข็งต่อไป

        ในส่วนของผู้แทนจากสำนักงบประมาณ ได้กรุณาให้ข้อแนะนำที่สำคัญ โดยเน้นย้ำถึงหลักการ Value for Money (ความคุ้มค่าเชิงงบประมาณ) เพื่อให้การตั้งของบประมาณการใช้จ่ายภาครัฐเกิดประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่า ทั้งในความประหยัด (Economy) ประสิทธิภาพ (Efficiency) ประสิทธิผล (Effectiveness) และความเสมอภาค (Equity) ทั้งนี้ หาก สมช. มีภารกิจที่จำเป็นต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และริเริ่มใหม่ ทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ ซึ่งมีเป้าหมาย วัตถุประสงค์ ความจำเป็น และผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดประโยชน์ต่อชาติและประชาชนอย่างชัดเจน ก็ขอให้ สมช. จัดทำรายละเอียดคำของบประมาณโดยอาศัยที่มาและความสำคัญดังกล่าวเสนอต่อสำนักงบประมาณ ตามที่ปฏิทินงบประมาณได้กำหนดไว้ภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2568

        ในโอกาสนี้ สมช. ขอขอบคุณท่านผู้แทนจากสำนักงบประมาณอีกครั้งที่ให้ความกรุณาเข้าพบ และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อการตั้งคำของบประมาณของ สมช. เพื่อสามารถดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 ได้ตรงตามภารกิจ เป้าหมาย และมุ่งบรรลุต่อการรักษาผลประโยชน์ของชาติอย่างสูงสุดต่อไป

กลุ่มงานพัฒนาแผนปฏิบัติราชการภายในองค์กร
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ร่วมงานเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ครบ ๙๒ ปี

        วันศุกร์ที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ เวลา ๐๗.๓๐ น. นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ครบ ๙๒ ปี ณ ห้องพินิตประชานาถ ในศาลาว่าการกลาโหม

กลุ่มงานบริหารงานสารบรรณและประชาสัมพันธ์
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

ประกาศบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการเลือกสรรเพื่อจัดจ้างเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งนิติกร ของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

      ตามที่ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ดำเนินการนำรายชื่อผู้ผ่านการเลือกสรร เพื่อจัดจ้างเป็นพนักงานราชการทั่วไป ในตำแหน่งนิติกร ของกรมการท่องเที่ยว ซึ่งประกาศขึ้นบัญชีเป็นผู้ผ่านการเลือกสรร เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๘ มาขึ้นบัญชีเป็นผู้ผ่านการเลือกสรรในตำแหน่งนิติกร ของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ นั้น
      บัดนี้ ได้ดำเนินการประเมินความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะเพิ่มเติมเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ จึงขอประกาศรายชื่อผู้ผ่านการเลือกสรรเพื่อจัดจ้างเป็นพนักงานราชการทั่วไป ในตำแหน่งนิติกร

Loading

ประกาศการขึ้นบัญชีและการยกเลิกบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกในตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ ของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

      ตามที่ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ดำเนินการคัดเลือกจากบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ในตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ ของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ซึ่งประกาศ ขึ้นบัญชี ผู้สอบแข่งขันได้ ณ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘ มาขึ้นบัญชีเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกในตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ ของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ นั้น
      บัดนี้ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ดำเนินการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งของผู้ที่สมัครเข้ารับการประเมินในตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการแล้ว จึงขอประกาศรายชื่อผู้ผ่านการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งและขึ้นบัญชีเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกในตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ

Loading

การประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนและประเมินผลการดำเนินงานนโยบายและแผนความมั่นคงที่ ๑๗ การเสริมสร้างความมั่นคงเชิงพื้นที่และแผนเตรียมพร้อมแห่งชาติและแผนบริหารวิกฤตการณ์ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐)

        เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ กองความมั่นคงด้านการเตรียมพร้อมและการป้องกันประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้จัดการประชุมฯ ในระดับพื้นที่ภาคกลางปริมณฑล ๔ จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ) โดยมี นายรัชกรณ์ นภาพรพิพัฒน์ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธาน เพื่อรับทราบผลการดำเนินการเกี่ยวกับศักยภาพการเตรียมพร้อมของจังหวัดต่อประเด็นภัย ได้แก่ ๑) สาธารณภัย ๒) โรคติดต่ออุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ ๓) ภัยคุกคามไซเบอร์ ๔) การก่อการร้าย ๕) วิกฤตการณ์ด้านพลังงาน และ ๖) วิกฤตการณ์ด้านอาหาร ตลอดจนเพื่อรับฟังข้อคิดเห็นของหน่วยงานในการดำเนินงานภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) ในกรอบนโยบายและแผนความมั่นคงที่ ๑๔ การพัฒนาศักยภาพการเตรียมพร้อมแห่งชาติและการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ นโยบายและแผนความมั่นคงที่ ๑๗ การเสริมสร้างความมั่นคงเชิงพื้นที่ และแผนเตรียมพร้อมแห่งชาติและแผนบริหารวิกฤตการณ์ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐)

กองความมั่นคงด้านการเตรียมพร้อมและการป้องกันประเทศ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

การประชุมสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการพัฒนาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ (สล.นพช.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๘

        เมื่อวันอังคารที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้จัดการประชุมสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการพัฒนาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ (สล.นพช.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๘ ณ ห้องประชุมหลานหลวง โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง กรุงเทพฯ โดยมี นายไผท สิทธิสุนทร ผู้ช่วยเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมฯ และผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๕๖ หน่วยงาน เข้าร่วมการประชุมฯ อาทิ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนงานการเสริมสร้างความมั่นคงเชิงพื้นที่ ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๖๘ – ๒๕๗๐
        ที่ประชุมฯ ได้รับทราบความก้าวหน้าที่สำคัญเกี่ยวกับการขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้กรอบนโยบายและแผนความมั่นคงที่ ๑๗ การเสริมสร้างความมั่นคงเชิงพื้นที่ในห้วงปี พ.ศ. ๒๕๖๘ และได้ร่วมกันพิจารณาความเหมาะสมของการขับเคลื่อนการดำเนินงานที่สำคัญในระยะต่อไปภายใต้นโยบายและแผนความมั่นคงที่ ๑๗ อาทิ (๑) (ร่าง) โครงการ พมพ. ตาพระยา – อ.โคกสูง ระยะที่ ๑ ห้วงบ้านทับทิมสยาม ๐๓ – บ้านทัพเสรี (พ.ศ. ๒๕๖๙ – ๒๕๗๐) และ (๒) การบูรณาการขับเคลื่อนงานการเสริมสร้างความมั่นคงเชิงพื้นที่เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนในระยะต่อไป

กองความมั่นคงด้านการเตรียมพร้อมและการป้องกันประเทศ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

Loading

Top