พลเอก สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง แนวทางกำลังอำนาจของชาติกับการจัดทำโครงการสำคัญด้านความมั่นคง เมื่อวันพุธที่ ๕ ส.ค. ๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ ห้องประชุมแซฟไฟร์ สวีท โรงแรมโนโวเทล แพลทินัมประตูน้ำ กรุงเทพฯ โดยผู้เข้าร่วมการสัมมนา ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จาก สมช. และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงกลาโหม สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล
เลขาธิการฯ ให้ข้อเสนอแนะที่สำคัญว่า กำลังอำนาจของชาติ หรือพลังอำนาจแห่งชาติ (National Power) จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสของไทย โดยใช้ศักยภาพเชิงบวก อาทิ ที่ตั้งทางภูมิรัฐศาสตร์ บทบาทนำในภูมิภาคอาเซียน และเอกลักษณ์หรือวัฒนธรรมอันดีของไทย เพื่อเป็นกรอบแนวคิดการจัดทำและขับเคลื่อนโครงการสำคัญด้านความมั่นคง (Flagship Project) ให้สามารถตอบโจทย์เป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้งให้สามารถบูรณาการร่วมกับยุทธศาสตร์ชาติด้านอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ในขณะที่ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้การดำเนินการระยะต่อไปจำเป็นต้องมีการปรับและทบทวนแผนระดับที่ ๒ คือ แผนแม่บทฯ ประเด็นความมั่นคง และ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ และแผนระดับที่ ๓
การจัดสัมมนาทางวิชาการฯ ครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ๓ ท่าน ได้แก่ ๑) ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๒) พลเอก เจิดวุธ คราประยูร ที่ปรึกษาพิเศษกองบัญชาการกองทัพไทย และ อนุกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง วุฒิสภา และ ๓) พลตรี ดร.โสภณ ศิริงาม ที่ปรึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เข้าร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนมุมมองวิชาการในประเด็นการประเมินกำลังอำนาจของชาติ เพื่อให้เป็นแนวทางการจัดทำหลักเกณฑ์โครงการสำคัญด้านความมั่นคงตามมาตรา ๑๖ แห่งพระราชบัญญัติสภาความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๙ อีกด้วย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่และบุคลากรของ สมช. ได้มีการประชุมหารือระดมความคิดเห็นแนวทางการประเมินกำลังอำนาจของชาติภายใต้แผนความมั่นคงเฉพาะเรื่อง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการจัดทำข้อมูลเชิงเปรียบเทียบให้หลักเกณฑ์การจัดทำโครงการสำคัญด้านความมั่นคงมีความครบถ้วนและสมบูรณ์มากขึ้น รวมทั้งได้เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจวิธีการใช้เครื่องมือการประเมินกำลังอำนาจของชาติ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติต่อไป
กองนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคงสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
๖ สิงหาคม ๒๕๖๓
