ข่าวประชาสัมพันธ์
การประชุมชี้แจงแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ในประเทศไทย (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) ในพื้นที่ภาคใต้

สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้จัดการประชุมชี้แจงแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมในประเทศไทย (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) ในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อวันศุกร์ที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ณ โรงแรมเรด จินเจอร์ ชิค รีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ โดยมี นายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธาน และได้รับเกียรติจาก นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ในการเข้ารับฟังการชี้แจงฯ พร้อมด้วยหน่วยงานส่วนราชการในจังหวัดกระบี่ และผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ภาคใต้ นอกจากนี้ ได้เชิญผู้แทนหน่วยงานส่วนราชการในพื้นที่ภาคใต้อีก ๑๓ จังหวัด เข้าร่วมการประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล (โปรแกรม Zoom Cloud Meetings)
สืบเนื่องจาก สมช. ได้จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมในประเทศไทย (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) เพื่อตอบโจทย์สังคมไทยที่มีลักษณะสังคมพหุวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ วัฒนธรรม ศาสนา ความเชื่อ และวิถีชีวิต โดยจุดมุ่งเน้นส่งเสริมให้คนในชาติได้รับการประกันสิทธิขั้นพื้นฐานและการพัฒนาศักยภาพที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น อย่างเสมอภาคและไม่เลือกปฏิบัติ การบริหารจัดการบนความหลากหลายด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน รวมทั้งคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม ตลอดจนสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งในระยะแรกจะให้ความสำคัญกับกลุ่มชาติพันธุ์ ทั้งนี้ แผนปฏิบัติการฯ ดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๕ จึงนำมาสู่การประชุมชี้แจงแผนให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในทุกภูมิภาครับทราบ เพื่อนำไปสู่การร่วมกันขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการในภาพรวมของทั้งประเทศ
ในการประชุมชี้แจงแผนปฏิบัติการฯ ในพื้นที่ภาคใต้ครั้งนี้ ได้รับข้อคิดเห็นที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการฯ ไปสู่การปฏิบัติจากผู้ทรงคุณวุฒิ (นายดนัย มู่สา) ผู้แทนศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (นายอภินันท์ ธรรมเสนา) และผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ภาคใต้ (นายวิทวัส เทพสง) ในประเด็นต่าง ๆ อาทิ ต้องส่งเสริมให้เกิดบริหารจัดการความหลากหลายอย่างเป็นเอกภาพและบูรณาการ โดยผลักดันงานดังกล่าวร่วมกันทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ร่วมกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคมในการขับเคลื่อนงานไปสู่ความสำเร็จ และต้องสร้างความเข้าใจถึงความสำคัญของ “สังคมพหุวัฒนธรรม” เพื่อขจัดอคติทางวัฒนธรรม เพื่อให้เกิดการเห็นคุณค่า การเคารพ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ควบคู่กับการส่งเสริมอัตลักษณ์ ภูมิปัญญา ความรู้ และศาสตร์ดั้งเดิม ซึ่งเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ให้เกิดมูลค่าในทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รวมถึงรวบรวมรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้อย่างเป็นระบบมิให้สูญหายไป เพื่อเสริมสร้างให้สังคมมีความเข้มแข็ง คนทุกกลุ่มสามารถอยู่ร่วมกันได้ ร่วมเป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศต่อไป
โดยก่อนหน้านี้ สมช. ได้จัดการประชุมชี้แจงให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตกรับทราบแล้ว และได้วางแผนชี้แจงในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือในห้วงกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ต่อไป
กองความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้และชนต่างวัฒนธรรม
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ